♣พอเข้าเดือน 6 ฝนฟ้าเริ่มตก ชาวสวนลับแลก็เริ่มเตรียมกล้าพันธ์ทุเรียน ลองกอง สำหรับลงปลูกในสวนที่เตรียมพื้นที่ไว้ด้วยการถางป่า ถางหญ้า พอพื้นดินชุมฉ่ำน้ำฝนก็เริ่มขนกล้าพันธุ์เข้าสวน การขนกล้าพันธุ์ไปสวน ส่วนใหญ่สวนของคนลับแลจะอยู่บนเขา รถยนต์เข้าไม่ถึง ต้องใช้รถจักรยานยนต์ โดยดัดแปลงใส่ตะแกรงเหล็ก มีลักษณะเป็นกรวยใหญ่ๆ ห้อยท้ายรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 ข้าง ส่วนบนก็จะทำสูงเลยเบาะขึ้นไป รถจักรยานยนต์ก็ต้องเป็นรุ่นที่มีบังโคลนครอบล้อ เล็ก ๆ สำหรับรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นบังโคลนครอบล้อใหญ่ๆ ก็หมดสิทธิ์ที่จะทำได้ (ตามรูป)
รถจักรยานยนต์ที่ใส่ตะแกรงท้าย
รถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงขึ้นมานี้ นอกจากจะใช้ขนกล้าพันธุ์ขึ้นไปปลูกในสวนบนภูเขาแล้ว ยังเป็นยานพาหนะลำเลียงผลผลิตลงจากบนเขาลงมาด้วย
ใช้ขนกล้าพันธุ์ และผลผลิต ของชาวสวน
เมื่อนำมาถึงตลาดก็นำส่งแม่ค้าที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง แม่ค้าก็จะตกลงราคาและวางจำหน่ายหรือขายส่งให้พ่อค้าที่มารอรับซื้อ ต่อไป
แม่ค้ากำลังนำผลผลิตวางจำหน่าย
♣สำหรับกล้าพันธุ์ทุเรียน ที่จะนำขึ้นไปปลูก มีกล้าที่ชำหลายประเภท ที่นิยมก็คือการเพาะชำในถุงพลาสติก อีกประเภทหนึ่งคือเพาะชำในปี๊บซึ่งจะเป็นต้นกล้าที่ใหญ่
กล้าพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองเพาะในถุง
ทั้ง 2 ชนิดชาวสวนจะใช้ดินล่วนผสมดินลูกลังที่มีส่วนผสมของดินเหนียวอยู่ด้วยสำหรับเพาะกล้า โดยนำดินดังกล่าวใส่ถุง แล้วจึงนำเมล็ดทุเรียนพื้นเมืองมาวางลงบนถุง โดยให้เมล็ดจมดินลงไปเกือบมิด แล้วรดน้ำรอให้งอกเป็นต้นกล้า พอต้นกล้าโตพอสมควรก็จะเปลี่ยนถุงที่โตขึ้น โดยเพิ่มดินให้ปริมาณมากขึ้น หรือบางรายก็จะนำกล้าพันธุ์ลงในปี๊บ โดยใส่ดินประมาณครึ่งปี๊บ รดน้ำดูแลให้โต ราคาขายในถุงจะถูกกว่า
♣ การใช้ดินล่วนและมีส่วนของดินเหนียวผสมก็เพราะว่า เวลาขนส่งใส่รถขึ้นไปบนสวนดินจะไม่แตก รากก็จะไม่กระทบกระเทือน สำหรับกล้าพันธุ์ที่เพาะจากที่อื่นจะใส่ขี้เลื่อยหรือแกลบ ทำให้ดินร่วนเวลาขนส่งและขณะปลูกดินจะแตกออกจากราก ทำให้โอกาสตายมีสูง หรือถ้าที่ใดมีปลวกในสวนมากปลวกก็จะมากินขี้เลื่อย ทำให้กล้าไม้ไม่โต การปลูกผมชอบใช้ต้นกล้าที่เพาะในถุง เพราะว่าไม่ยุ่งยาก สำหรับกล้าปี๊บ ต้องตัดปี๊บออก ทำให้กระทบกระเทือน บางคนเขาฝังทั้งปี๊บ บอกว่าไม่กี่ปีปี๊บก็ผุ แต่ผมไม่นิยมเพราะกว่าจะผุก็คงหลายปี
กล้าพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองเพาะในปี๊บ
♣วิธีการปลูกกล้าถุง เป็นวิธีที่ผมปลูกนะครับ ผมได้รับการสอนจากคุณลุงที่สวนอยู่ติดกัน ก่อนอื่นต้องเตรียมหลุมปลูกก่อน ขุดหลุมถ้าเป็นที่ภูเขาก็ไม่ต้องขุดกว้างมากนัก แต่ถ้าเป็นพื้นราบก็ทำตามตำราได้เลย ขุดลึกพอท่วมถุง ให้ดินปากถุงต่ำกว่าปากหลุมเล็กน้อย ข้อดีคือเวลาให้น้ำฤดูแล้ง น้ำจะไม่ไหลไปไกลต้น ข้อเสียคือฤดูฝนน้ำจะขังทำให้รากเน่า แล้วนำถุงกล้าพันธุ์มาตัดก้นถุงด้วยใบมีดโกนคม ๆ ให้รอบถึงก่อน แล้วดึงพลาสติกก้นถุงออก นำกล้าพันธุ์วางลงในหลุมจัดต้นให้ตรง แล้วให้ใบมีดโกน กรีดข้างถุง อย่าให้ดินหุ้มรากแตก ดึงพลาสติกออก กลบหลุมกดดินให้แน่นพอประมาณ นำไม้มาปัก มัดด้วยเชือกฟางกันลมโยก เท่านี้ก็เรียบร้อย อีก 2-3 ปี ก็นำกล้าพันธุ์หลง หลินมาทาบ หรือนำยอดมาเสียบได้เลย แต่ถ้าจะปลูกโดยใช้กล้าพันธ์หลง หลิน ก็ทำวิธีเดียวกันครับ
ใช้ใบมีดโกนกรีดรอบก้นถุง
ใช้ใบมีดโกนกรีดข้างถุงแล้วดึงออก
กลบหลุมปักไม้มัดกันลมโยกต้น
♣จะเห็นว่าการใช้ดินเพาะที่มีส่วนของดินเหนียวก็เพราะการลำเลียงขึ้นไปปลูก การกรีดก้นถุง กรีดข้างถุง ดินจะได้ไม่แตกง่าย ส่วนเรื่องของรากที่อยู่ในถุงไม่ต้องห่วงเพราะต้นกล้าที่ท่านซื้อไปจะเห็นรากโผล่ออกก้นถุงอยู่แล้ว และกล้าที่เพาะกว่าจะโต หรือกล้าพันธุ์ที่เปลี่ยนยอดแล้วอายุไม่ต่ำกว่า 2 – 3 ปีครับ
♣ขอขอบคุณแฟน ๆ Blog ที่สนใจแวะเวียนไปเยี่ยมที่บ้าน และให้นำพาไปที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง มีหลายท่านจาก พิษณุโลก สุโขทัย กทม. หาดใหญ่ มีบางท่านโทรถามข้อมูล ยินดีรับใช้ และคงมีโอกาสได้ต้อนรับทุกท่านอีกนะครับ
ใส่ปุ๋ยอย่างไรครับ
ตอบลบใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมตอนปลูกครับ ส่วนต้นที่เก็บผลเสร็จแล้วใช้สูตรเสมอหว่านรอบทรงพุ่มครับ สำหรับเร่ิงดอกใ้ช้ 8-24-24
ตอบลบสนใจ กล้าทุเรียน ป่าคับ ที่สวนมีขายไหมคับ
ตอบลบกล้าทุเรียนที่ชาวลับแลปลูกบนเขา ส่วนใหญ่เป็นกล้าทุเรียนพื้นเมือง เมื่อโตขนาดต้นเท่าด้ามไม้กวาด จึงจะเสียบยอด หรือทาบยอดจากยอดพันธฺุ์ครับ ถ้าสนใจก็ติดต่อที่คุณจำเนียนครับ มีหลายขนาดหลายราคา
ตอบลบอยากทราบว่าดินที่เหมาะแก่การปลูกทุเรียนเป็นดินแบบไหนค่ะ และปลูกดินแบบไหนได้บ้าง
ตอบลบขอเรียนตามประสบการณ์นะครับ ดินพื้นที่ในอำเภอลับแลที่ใช้ปลูกทุเรียน ส่วนใหญ่อยู่บนเขา เป็นดินที่มีทั้งลูกรังผสมกับดินร่วน ส่วนดินที่ปลูกในที่ราบจะเป็นดินที่มีลักษณะเป็นดินร่วนครับ ดินที่ขุดเอาขึ้นมากลบหน้าดินหรือดินท้องนาไม่เหมาะกับการปลูกทุเรียนที่ลับแลครับ ที่ตำบลทุ่งยั้งข้าง ๆ หนองพระแล ปลูกในดินลูกรังก็ขึ้นได้ครับ พื้นที่ที่ปลูกต้องไม่มีน้ำท่วมขังนะครับ แม้กระทั่งพื้นที่ราบก็ต้องระวังเรื่องน้ำขัง เพราะจะเป็นโรคโคนเน่ารากเน่าครับ
ตอบลบอยากไดั เบอร์ โทร ติดต่อ จังเลยครับ
ตอบลบคุยกับเจ้าของสวนได้เลยครับ ป้าจำเนียร 086 928 4180
ตอบลบ