เรื่องนี้...HOT จริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ตลาดทุเรียน หลงลับแล หลินลับแล คึกคัก

ช่วงการจัดงานมหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม  ถึง 3 มิถุนายน 2555 จัดงาน ณ ศูนย์ OTOP เทศบาลหัวดง ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ตลาดผลไม้ที่อยู่หน้าเทศบาลหัวดงคึกคักเป็นพิเศษ เช้าวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 มีทุเรียนหมอนทอง และหลงลับแล ออกสู่ตลาดจำนวนมาก มีพ่อค้ารับซื้อ และร้านค้าส่งรับซื้อไว้เป็นจำนวนมาก  ที่สวนห้วยผึ้งฯ วันนี้เลือกตัดทุเรียนหมอนทองที่แก่จัดได้ 3 เข่ง ประมาณ 60 กิโล ก็เลยนำมาวางตลาดกับเขาด้วยเหมือนกัน

  
ช่วงงานเทศกาลฯ ที่ตลาดผลไม้ คึกคัก
ร้านค้าในตลาดผลไม้หน้าเทศบาลหัวดง เป็นร้านที่ขายทั้งปลีก และส่ง ถ้าท่านไปก็นำรถไปจอดบริเวณลานสุสานของวัดหัวดง ไม่ต้องกลัวว่าจะเปลี่ยว รอบ ๆ ลานนั้นเต็มไปด้วยร้านขายทุเรียน และรถรับซื้อทุเรียน แล้วท่านก็เดินย้อนออกมาที่ถนนใหญ่ จะมีร้านขายทุเรียนทั้ง 2 ข้างทาง ด้านทิศเหนือที่เห็นทุเรียนเป็นกอง ๆ เขาซื้อเพื่อขายพ่อค้าส่ง ส่วนที่วางบนแผง หรือร้านที่เป็นแผงมีร่มหน้าร้าน เป็นร้านที่ขายปลีก ราคาก็แล้วแต่จะตกลงกัน เพราะทุเรียนมีหลายขนาด
ร้านค้ารับซื้อเพื่อขายให้พ่อค้าส่ง
การซื้อทุเรียนท่านต้องบอกแม่ค้าว่าจะรับประทานเมื่อไหร่ ถ้านำกลับบ้าน 2-3 วันค่อยรับประทาน ก็ต้องซื้อทุเรียนที่ตัดไว้อย่างน้อย 1 คืน แต่ถ้าจะรับประทานเลย ก็ต้องเป็นทุเรียนสุก การสุกก็มี 2 อย่าง คือตัดแล้วปล่อยให้สุก ทุเรียนชนิดนี้ทานอร่อย เนื้อไม่เละ ถ้าเป็นทุเรียนสุกคาต้นแล้วหล่น บางสายพันธุ์เนื้อในจะนิ่ม ถ้าเป็นทุเรียนพื้นเมืองที่สุกหล่นเนื้อค่อนข้างอ่อนถึงเละ ฉะนั้นก็เลือกตามใจชอบ และถามคนขายให้ดีนะครับ
 
พ่อค้าย่อยมารับซื้อ
ร้านทุเรียนบางร้านขายทั้งปลีก และส่ง รวมถึงจัดส่งให้ด้วยทางรถไฟ ฉะนั้นถ้าท่านทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน และเมื่อท่านโอนเงินไปให้ แม่ค้าก็จะจัดส่งทางรถไฟให้ วิธีนี้ต้องเพิ่มค่ากล่องบรรจุ อีก 40 – 50 บาท และต้องเสียค่ารถจากตลาดหัวดงไปถึงสถานีรถไฟ และเสียค่าระวางรถไฟถึงปลายทางอีก วิธีนี้ท่านไม่ต้องเดินทางมาซื้อ แต่เพิ่มเงินค่าจัดส่งอีกนิดหน่อย ก็ได้รับประทานทุเรียนอร่อยแล้วครับ


ร้านนี้มีทั้งขายปลีก รับส่งทางรถไฟ
ถ้าท่านไปที่ตลาดผลไม้หัวดงช่วงวันหยุดนี้  ซึ่งเป็นช่วงการจัดงานมหัศจรรย์ทุเรียนหลง - หลินลับแล  ท่านก็สามารถเลือกซื้อทุเรียนหลงลับแล และหมอนทอง   และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน เช่นทุเรียนทอด ทุเรียนกวน ส่วนหลินลับแล ช่วงนี้เริ่มมีน้อย ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมแวะอุดหนุนชาวสวนลับแลกันนะครับ..............

















วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เริ่มแล้ว..งานมหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล ประจำปี 2555

ตามที่ จังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอลับแล และเทศบาลหัวดง  ได้กำหนดจัดงานมหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2555 ณ ตลาดกลางผลไม้เทศบาลตำบลหัวดง (OTOP)
  มวลชนเข้าร่วมพิธีเปิดงาน
พิธีเปิดงาน เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ของวันที่ 31 พฤษภาคม โดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์
นายนาวิน สินธุสอาด เป็นประธานในพิธี นายอำเภอลับแล นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ กล่าวรายงาน
ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานเปิดงาน
วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเป็นการส่งเสริมเผยแพร่ชื่อเสียงของทุเรียนเมืองลับแล และกระตุ้นให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนพัฒนาปรับปรุงคุณภาพทุเรียนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอลับแล และจังหวัดอุตรดิตถ์อีกทางหนึ่งด้วย
แม่บ้านจากหมู่บ้านต่าง ๆ เตรียมประกวดส้มตำลีลา
ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมด้านวิชาการเกษตร วิชาการด้านวิทยาศาสตร์ การประกวดผลผลิตทุเรียน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน ประกวดกระเช้าผลไม้ การแข่งขันการตำส้มตำลีลา การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การจำหน่ายทุเรียนของชาวสวน จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนเช่น ทุเรียนทอด ทุเรียนกวน  และภายในงานยังมีมหรสพ เช่น มวย การแสดงดนตรีของนักร้องที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
สวนจันทน์ผาฯ นำทุเรียนหลงลับแล ไปวางจำหน่าย
ทีม อปพร.ตำบลแม่พูล คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน
อย่าลืมนะครับ ช่วงวันหยุดนี้ ไม่ทราบจะไปพักผ่อนที่ไหน เชิญลองมาเที่ยวที่จังหวัดอุตรดิตถ์ งานมหัศจรรย์ทุเรียนหลง –หลินลับแล ของชาวสวนทุเรียนเมืองลับแลกันนะครับ จัดงานที่ศูนย์ OTOP เทศบาลหัวดง ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ สำหรับราคาก็ยังปกติ และขอเรียนว่า ตอนนี้ทุเรียนหลง หลิน ใกล้จะหมดแล้ว รีบๆ ไปลองชิมกันนะครับ ....

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พายุฝนสร้างความเสียหายให้ชาวสวนลับแล

เมื่อปี 2549  ประมาณวันที่ 15 พฤษภาคม เป็นต้นมา มีฝนตกลงมาตลอด จนเกิดน้ำท่วม ดินโคลนถล่มเมืองลับแล ซึ่งครั้งนั้นสร้างความเสียหายแก่ชาวลับแลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชสวน ไร่นา ชีวิต และทรัพย์สิน ครั้งนั้นยังอยู่ในความทรงจำของชาวลับแลตลอดมา  และปีนี้ก็เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา เกิดพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนในเขตอำเภอลับแลเสียหายหลายหมู่บ้าน และต่อมาในจังหวัดอุตรดิตถ์ฝนตกชุกมากขึ้น ทำให้มีน้ำหลาก ถนนถูกตัดขาดหลายแห่งในอำเภอตอนเหนือของจังหวัดอุตรดิตถ์
 ฝนกำลังพัดปกคลุมพื้นที่ลับแล
ฝนตกหนักเมื่อ 27 พฤษภา 2555
-ผมเคยพูดเสมอว่า สิ่งที่ทำให้การทำสวนไม่ประสบผลสำเร็จมีอยู่ด้วยกัน 3 ม. คือ  1.แมลง 2.มีด 3.ไม่มีน้ำ
1.  แมลง  คือเมื่อทำสวนแล้ว ขณะที่พืชผลแตกใบอ่อน หรือผลอ่อน หรือผลใกล้สุก ก็จะมีแมลงมารบกวน กันกินใบอ่อน ผลอ่อน หรือแมลงวันทองเจาะผลแล้วไข่ทำให้ตัวอ่อนไชเข้าผลเมื่อสุก ชาวสวนก็จะพ่นยาฆ่าแมลงป้องกันหรือกำจัด
        แต่มีแมลงอีกชนิดหนึ่ง ที่ยาฆ่าแมลงชนิดใดก็กำจัดไม่ได้นั่นคือ..แมงตะกร้า แมลงชนิดนี้ที่เรารู้จักกันทั่วไปว่า....ขโมย  ถ้ามันเอาตะกร้าไปใส่ด้วยรับรองว่าหมดสวนแน่ ชาวสวนกลัวกันนัก  เมื่อ 2-3 วันก็มีข่าวดังของลับแล ว่าจับแมงตะกร้าได้แล้วเอามัดติดต้นทุเรียน แล้วจึงไปแจ้งตำรวจ
2.  มีด เมื่อเราทำสวน เราก็จะต้องถางหญ้า เพื่อไม่ให้คลุมต้นเล็ก ๆ หรือกำจัดที่อยู่อาศัยของหนู และแมลงต่าง ๆ ถ้าคนถางสวนไม่รู้จักต้นไม้ว่าต้นนี้คือ ลองกอง ต้นนี้คือ ทุเรียน ก็จะถางออกหมด หรือถ้ารู้จักขณะถางไม่ระมัดระวัง ใบมีดตัดหญ้าก็จะถางต้นเล็ก ๆ ขาดหมด บางคนต้นใหญ่ก็ตัดอ้างว่าถูกตอไม้บังคับไม่ได้ อย่างนี้ก็เสียเวลาปลูกใหม่
3.  ไม่มีน้ำ สวนบางสวนปลูกแล้วต้องให้น้ำ ตั้งแต่ปลูกใหม่ ๆ จนกระทั่งการให้น้ำบังคับให้ออกดอก หรือให้เพื่อให้ผลเจริญเติบโต  ที่ผมใช้คำว่าบางสวนก็เพราะถ้าเป็นสวนที่อยู่ในหุบเขาลึก ๆ จะไม่มีการดูแลให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ปลูกตามธรรมชาติ ถึงเวลาก็ไปถางหญ้า พอออกผลก็ไปเก็บ นาน ๆ ก็ให้ปุ๋ยเสียที
แก้วมังกรหักหลายหลัก
-แต่เดี๋ยวนี้มีเหตุที่ทำให้ทำสวนไม่ประสบผลสำเร็จมีเพิ่มขึ้นอีก 1 อย่าง คือ พายุฝน นอกจากจะนำความชุ่มชื้นมาให้ยังกลับมีลมพายุพัดกระหน่ำรุนแรง ทำให้ต้นไม้โคน กิ่งหัก เสียหายหลายสวน บางสวนทุเรียนโค่นเกือบหมด ชาวสวนเรียกว่าทางลมผ่าน 
ต้นกระท้อนหักขวางทางขึ้นสวน
ต้นที่หักกำลังติดลูก
ที่สวนห้วยผึ้งจันทน์ผา ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เมื่อคืนวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาฝนตกหนักมาก ตอนเช้าเข้าไปดูสวนปรากฏว่า กิ่งกระท้อนหัก แก้วมังกรล้มหลายต้น......นี่แหละครับผลกระทบจากพายุฝน ที่ชาวสวนต้องรับโดยไม่เต็มใจ.....


วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สวนห้วยผึ้งจันทน์ผาลับแล ยินดีต้อนรับผู้มาเยือน

จากการเริ่มทำสวนเมื่อปี 2549 ขณะรับราชการ แล้วผลที่ได้ปัจจุบัน มีผลผลิตมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง มะไฟ กล้วย ชะอม มะละกอ หน่อไม้ มะนาว มะเฟือง มะยงชิด ทุเรียน ส้มโอ ขนุน ซึ่งผลิตปีนี้ค่อนข้างจะได้ปริมาณมากเพิ่มขึ้นกว่าทุกๆ ปี เมื่อได้เขียนให้ท่านที่สนใจได้ทราบข้อมูลทาง Blog นี้ ทำให้มีผู้สนใจต้องการมาเที่ยวที่สวนเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์  หรือบางกลุ่มก็มาเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ สนใจขอเข้าชมและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการทำสวนเป็นจำนวนมาก
  บ้านสวนห้วยผึ้งจันทน์ผา
ขอเรียนให้ทราบว่าที่สวนไม่ได้เปิดรับเป็นที่พัก หรือเปิดให้ทานผลไม้แล้วเก็บค่าเข้าชมาเหมือนสวนทางภาคตะวันออก เพียงแต่ถ้าต้องการมาเที่ยวชม หรือมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็ยินดีครับ ซึ่งผมไม่ได้คิดค่าเข้าชม เพราะผมเพิ่งเริ่มทำสวนเพียงไม่กี่ปี ส่วนจะเป็นช่วงผลไม้ชนิดใดออกนั้นก็แล้วแต่ฤดูกาลครับ
ศาลาก้อนเส้าเตาไฟ
เมื่อต้นเดือนได้มีโอกาสต้อนรับครอบครัวจากจังหวัดปราจีนบุรี ครอบครัวนี้ต้องการมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการทำสวนจริง ๆ สอบถามทุกกระบวนการที่ทำ ก็ต้องยอมรับครับว่าท่านสนใจจริง ๆ อุตส่าห์ขับรถจากปราจีนบุรีถึงลับแลอุตรดิตถ์ เสียดายไม่ได้นัดหมายไว้เลยไม่ได้ถ่ายรูป แต่ก็ต้อนรับตามมีตามเกิด ก่อนกลับได้เอากล้าหลง-หลินกลับไปด้วย และที่สำคัญของดีเมืองอุตรดิตถ์ ผมได้มอบให้ไปด้วย คือพระที่ทำจากแร่เหล็กน้ำพี้ ส่วยแม่บ้านก็ได้มอบ ไหลดำ ไหลเขียวน้ำพี้ ให้ไปด้วย ขอให้โชคดีนะครับ โอกาสหน้าถ้ามีเวลาเชิญอีกนะครับ
ทุเรียนหมอนทองต้นนี้ถูกถ่ายรูปมากที่สุด
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 55 ได้มีโอกาสต้อนรับ ลูก ๆ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อนของลูกสาว ชุดนี้มาเยี่ยมตั้งแต่บ้าน ทานอาหารเช้า ก็ธรรมดาแม่บ้านผมเขาก็ทำอาหารตามคำสั่งลูกสาว คือลาบหมู น้ำพริกอ่อง ต้มจืดเต้าหู้ทอด พอทานเสร็จก็เข้าไปเที่ยวสวนห้วยผึ้งจันทน์ผา ตัดผลไม้ในสวน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มะไฟ ชมพู่ มะม่วง สนุกสนานกันใหญ่บางคนก็ลงไปขุดหน่อไม้นำกลับไปฝากที่บ้าน คนที่อยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์แม่บ้านผมก็เก็บชะอมฝากไปด้วย  
อาหารเช้าที่บ้านหัวดง
 











รวมภาพบรรยากาศที่ลูก ๆ สนุนสนานกันในสวนห้วยผึ้งจันทร์ผา
ผมยินดีต้อนรับทุกคณะครับ และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 ก็ได้รับการติดต่อจากท่านสาธารณสุขอำเภอลับแล ว่าคณะศึกษาดูงานจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะเข้าชมการทำสวน แต่ผมก็ไม่ได้รับเพราะทางเข้าสวน รถบัสไม่สามารถเข้าไปได้ เพียงแต่นำผลผลิตมาบริการที่ตลาดผลไม้หัวดง และได้มีโอกาสแกะหลงลับแลให้ชิม รวมถึงทุเรียนทอดด้วย ขอขอบคุณครับที่ท่านช่วยอุดหนุนชาวสวน ในตลาดทุกร้าน ทุกแผง ..................

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทุเรียนหลงลับแล ทุเรียนหลินลับแล คนชอบทานควรรู้

  •  ทุเรียนที่ปลูกในอำเภอลับแล มีหลายหลากสายพันธุ์ แต่ที่ได้ผลดีที่สุดคือทุเรียนพื้นเมือง ซึ่งมีการพัฒนาพันธุ์จนเป็นที่ต้องการของตลาด นั่นคือทุเรียนพันธุ์ หลงลับแล และหลินลับแล ส่วนทุเรียนพันธุ์ที่นิยมปลูกอีกสายพันธุ์หนึ่งคือทุเรียนหมอนทอง ซึ่งปัจจุบันทุเรียนหมอนทองเป็นทุเรียนเศรษฐกิจ มีรถห้องเย็นไปคอยรับซื้อถึงที่ ชาวสวนจึงนิยมปลูกทุเรียน 3 สายพันธุ์นี้มากที่สุด
ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง
  •  ถ้าท่านไปที่ตลาดผลไม้หัวดง ท่านจะลานตาไปหมด ไม่ทราบว่ากองไหนเป็นหลง กองไหนเป็นหลิน กองไหนเป็นหมอนทอง กองไหนเป็นทุเรียนพื้นเมือง นอกเสียจากแม่ค้าจะเขียนป้ายบอกไว้ ถ้าดูไม่เป็นบางทีก็ได้ทุเรียนพื้นเมืองธรรมดามารับประทานก็มี
 ลักษณะผลหลงลับแล
เนื้อหลงลับแล
  • ข้อสังเกตทุเรียนหลงลับแลมีผลขนาดเล็ก ถึงขนาดปานกลาง ไม่ปรากฏว่าทุเรียนหลงลับแลมีขนาดจัมโบ้ น้ำหนักตกผลละ ครึ่งกิโลกรัม ถึง ไม่เกิน 4 กิโลกรัม ลักษณะผลส่วนใหญ่เป็นรูปไข่ บางสายพันธุ์รูปทรเหมือนพื้นเมืองทั่วไป  เห็นพูเป็นลอนชัดเจน รสชาติหวานมัน กลิ่นไม่ฉุนมาก

ลักษณะผลหลินลับแล
เนื้อหลินลับแล
  •  ส่วนทุเรียนหลินลับแล  มีผลขนาดเล็ก น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 1 กิโลกรัม ถึง 2 กิโลกรัม ลักษณะผลเหมือนทรงกระบอกรพูลอนไม่ใหญ่ ส่วนนี้บางลอนถ้าปลอกแล้วจะเห็นเนื้อเป็นลิ่ม ๆ ไม่มีเมล็ด รสชาติหวานอ่อน มัน กลิ่นอ่อน  
ลักษณะผลหมอนทอง
  • สำหรับทุเรียนหมอนทองคงไม่มีปัญหา เพราะเป็นทุเรียนผลใหญ่ ลักษณะผลก็มีตั้งแต่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป จนจัมโบ้ พูลอนเนื้อเมล็ดใหญ่ชัดเจน รสชาติ เนื้อจะไม่แน่น รสหวาน มัน กลิ่นฉุนปานกลาง
  • และยอดนิยมสำหรับชาวบ้านทั่วไป ที่จะนำไปทำน้ำกะทิทุเรียน หรือ นำไปเลี้ยงคนจำนวนมาก เวลาลงแขกปลูกข้าวโพด หรือปลูกอ้อย หรือจะนำไปกวน ก็นี่เลยครับ ทุเรียนพื้นเมือง ลักษณะผลมีทั่วไป ของทุเรียน แต่เนื้อน้อย เมล็ดใหญ่ กลิ่นฉุนมาก
ลักษณะผลพื้นเมือง
  • มีคำกล่าวจากผู้ใหญ่ที่เคยรับประทานบอกว่า ถ้าจะทานให้อร่อยต้องทานหลงลับแล แต่ถ้าจะทานแค่พอให้ได้รสชาติให้ทานหลินลับแล แต่ถ้าจะทานให้อิ่มให้ทานหมอนลับแล ฉะนั้นถ้าท่านมาซื้อทุเรียนก็ต้องสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนว่าอันไหนหลง อันไหนหลิน เพราะหลินบางลูกนำไปปลอกที่บ้านปรากฏว่าไม่มีเนื้อเมล็ด มีแต่เป็นลิ่มๆ เท่านั้น ต้องตกลงกับผู้ขายให้ดีนะครับ เพราะของอย่างนี้มีเปลือกหุ้ม มองไม่เห็น คงต้องใช้ประสบการณ์ ของแต่ละท่านครับ