เมืองลับแล เมืองมหัศจรรย์แห่งผลไม้ คำกล่าวที่ว่าคงไม่เกินความจริงมากนัก เพราะจะมีผลผลิตของพืชสวนออกทั้งปี เกือบทุกฤดูกาลของผลไม้ ใครจะเชื่อบ้างว่า มีผลสละของชาวลับแลออกวางขาย มีสะตอของชาวลับแลออกวางขาย ราคาก็ถูกกว่าของภาคใต้ด้วย อะโวคาโด ผลไม้ที่ไม่คุ้นของคนไทยก็ปลูกได้ที่ลับแล ช่วงปลายเดือนเมษา นอกจากจะเริ่มมีทุเรียน มังคุด ออกช่วงนี้แล้ว ยังมีมะไฟ ออกมาวางจำหน่ายในราคาถูกอีกด้วย
ทรงพุ่มมะไฟเหรียญทอง
มะไฟ เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก มะไฟที่ปลูกในอำเภอลับแล ส่วนใหญ่มี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ไข่เต่า ซึ่งถ้าอยู่ในที่ชื้นลูกก็จะโต ลักษณะผลส่วนใหญ่จะมี 3 พู แกะเปลือกออกจะเห็นมี 3 เมล็ด ถ้าลูกเล็กก็จะมี 2 พู สุกแล้วรสหวาน อมเปรี้ยวเล็กน้อย เปลือกจะหนาเหมาะสำหรับขนส่งไกล ๆ
มะไฟไข่เต่า เมื่อปลอกเปลือกมี 2 - 3 เมล็ด
ส่วนอีกสายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ได้แก่ พันธุ์เหรียญทอง มะไฟพันธุ์นี้ลูกจะโตกว่ามะไฟไข่เต่า ผลมี พู แกะเปลือกออกจะเห็นมี 4 เมล็ด สุกจัดแล้วรสจะหวาน บางคนชอบรับประทานหวานอมเปรี้ยว ก็เลือกรับประทานได้เลือกลูกที่สุกแต่ส่วนที่ติดขวั้นยังเขียวเล็กน้อย
มะไฟเหรียญทองเมื่อปลอกเปลือกมี 4 เมล็ด
วิธีปลูกก็ใช้ได้ทั้งการเพาะกล้าเมล็ด และตอนกิ่ง การปลูกโดยเพาะเมล็ดก็จะใช้เวลานานกว่าจะไดผลผลิต แต่ถ้าซื้อกิ่งตอนที่เขาตอนขายมาปลูกก็จะได้ผลผลิตเร็วยิ่งขึ้น ส่วนคนที่ปลูกมะไฟสายพันธุ์พื้นเมือง มะไฟป่า หรือสายพันธุ์อื่นไว้ อยากจะให้เป็นพันธุ์เหรียญทอง หรือไข่เต่าดูบ้าง ก็เลือกยอดของพันธุ์ที่ชอบ ยอดที่อวบ อั้นยอดแล้วคือไม่มียอดอ่อน ตัดยาวประมาณ 3 – 4 นิ้ว เด็ดใบออกให้หมด แล้วนำไปต่อยอดต้นเดิม จะเป็นการต่อโดยเสียบยอด หรือทาบยอดลงบนกิ่งก็ได้ ท่านก็จะได้มะไฟพันธุ์เหรียญทอง หรือพันธุ์ไข่เต่าไว้รับประทาน ผลไม้ชนิดนี้ บางจังหวัดที่เคยมีปลูก เดี๋ยวนี้ชักจะไม่ค่อยมีให้เห็น และเพื่อเป็นการอนุลักษณ์ผลไม้ไทย ก็หาต้นพันธุ์ปลูกไว้ในบริเวณบ้านบ้าง ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน ถึงฤดูก็ออกดอกผลให้รับประทาน
ที่สวนห้วยผึ้ง จันทน์ผา มีปลูกไว้ทั้ง 2 สายพันธุ์ ต้นยังเล็กอยู่(ในภาพ) ให้ผลผลิตไม่มากนัก แต่ที่สวนของคุณลุง หรือสวนของอาจารย์ ที่อยู่ติดกัน ของเขาต้นใหญ่ ต้นหนึ่งได้หลายร้อยกิโล เวลามองไปที่ต้นขณะมีผล เป็นพวงสุกสีเหลืองสวยงามครับ
มะไฟเหรียญทองบนต้น
มะไฟเหรียญทอง ขนส่งสู่ตลาด
ที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง อำเภอลับแล ก็มีวางขายทั้งปลีกและขายส่ง ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 10 กว่าบาท ต่อกิโลกรัม ถ้าซื้อทุเรียนแล้ว ก็ลองซื้อมะไฟกลับไปฝากเพื่อนฝูง ครอบครัวบ้างนะครับ เป็นผลไม้พื้นเมืองของไทย วิธีรับประธานก็ง่าย ปลอกเปลือก ก็เห็นเนื้อขาวนวนใส บางคนก็กลืนทั้งเมล็ด บางคนก็ปลิ้นเอาเมล็ดออก บางคนก็นำไปปรุงก่อนโดยแกะเปลือกเอาแต่เมล็ดแล้วนำไปคลุกกับพริกเกลือแล้วตักรับประทาน อร่อยอย่าบอกใคร พูดแล้วน้ำลายไหล ........ลองหารับประทานดูนะครับ ช่วยชาวสวนมะไฟอีกทางหนึ่งด้วย ..ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ