เรื่องนี้...HOT จริงๆ

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

เมื่อผมเป็นคนสวน (วิถีชีวิต)

เดิมผมเป็นข้าราชการ ทางราชการให้โอการเกษียณก่อนกำหนด(เกษียณผิดปกติ) เลยขอใช้โอกาสนี้เปลี่ยนวิถีชีวิตตนเอง   ผมเคยถามตัวเองว่าเกษียณแล้วจะทำอะไร ผมก็ได้เตรียมตัวเองไว้พอสมควร เหตุเนื่องจาก ขณะที่รับราชการเมื่ออายุมากขึ้นที่ขาดไม่ได้ก็คือการออกกำลังกาย ผมเลือกการขี่จักรยาน ทุกเย็นก็จะขี่จักรยานไปเรื่อย ๆ ก็ดีครับ ได้เห็นสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป  ได้สุขภาพที่สมบูรณ์ขึ้น ผมเคยขี่จากจังหวัดตากถึงอุตรดิตถ์ จากจังหวัดนครสวรรค์ ถึงจังหวัดอยุธยา ผมใช้จักรยานราคาไม่ถึงหมื่นบาท เพราะเชื่อว่าสักวันถ้ากระแส หรือเพื่อนฝูงย้ายไป กลุ่มน้อยลง จักรยานก็จะเป็นของเก่าเก็บ  ผมเริ่มคิดใหม่ พอดีเมื่อปี 2549 เกิดน้ำท่วม ดินถล่มอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ บ้านที่ผมอาศัยอยู่ก็โดนหางเลขด้วย ผมจึงหาที่ทางที่ปลอดภัยสำรองไว้ โดยเลือกที่ ๆ หนึ่งซึ่งไม่เจริญมาก มีสภาพเป็นสวนและเป็นที่อยู่อาศัย ตั้งแต่นั้นมาผมก็เปลี่ยนจากการขี่จักรยาน เป็นทำสวน ปลูกต้นไม้ ถางหญ้า ทุกวัน สุขภาพร่างกายก็รู้สึกดีกว่าตอนขี่จักรยาน  เพราะขี่จักรยานต้องมีเวลาผลที่ได้คือสุขภาพ  แต่ทำสวน เดินดูต้นไม้ ได้ทั้งผลงานผลผลิต ได้ทั้งการออกกำลังกาย หลานท่านอาจคิดว่าแค่เดินในสวน จะได้ออกกำลังกายหรือ ผมขอบอกว่าเดินขึ้นเนินเขาครับ แค่จากประตูสวนถึงบ้านพัก และเดินรอบ ๆ ดูแลต้นไม้ ก็ได้เหงื่อแล้ว  ผลได้ที่คาดไม่ถึงคือเมื่อผลผลิตสวนออก คนที่มีความสุขคือตัวเรา และคนในครอบครัว ลูก ๆ  ได้มีที่พักผ่อน รวมทั้งได้นำผลผลิตไปฝากเพื่อนฝูง ญาติผู้ใหญ่ด้วย ที่เหลือก็ขายได้ค่าน้ำ ค่าปุ๋ย


ที่นั่งทำงานเมื่อครั้งก่อน
   ที่นั่งทำงานปัจจุบัน
จากปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ผมปรับปรุง ปลูกผลไม้ ทุกชนิดในสวน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ลองกอง มะปราง มะไฟ มะเฟือง มะละกอ กล้วย กระท้อน ฯลฯ   ส่วนใหญ่ชาวลับแล มักจะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่นทุเรียน กับลองกอง ก็ทำแค่นั้น พอหมดฤดูช่วงผลผลิต ประมาณเดือน กันยายน ก็จะไม่มีผลไม้อื่นอีกก็จะพักผ่อน ส่วนผมเมื่อหมดทุเรียน ลองกอง ผมจะต้องเตรียมดูและมะปราง หมดมะปรางก็ต้องดูแล มะม่วง มะไฟ กระท้อน พอหมดกระท้อนก็จะเริ่มวนกลับเป็นทุเรียน ลองกองฯ  จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ผมต้องดูแลสวนทุกวัน ส่วยพืชแซมเช่น สับปะรด ชะอม หน่อไม้ไผ่ มะนาว กล้วย มะละกอ ให้ผลผลิตตลอดปี ทำอาหารบ้าง นำไปขายบ้าง

วันนี้ใช้วิถีชีวิตคนสวน
เมื่อไปสวนทุกวัน วิถีชีวิตก็เปลี่ยน จากที่เคยเที่ยวดื่มกิน ก็จะชวนเพื่อนฝูงมาที่สวน มาที่บ้าน สังคมเดิมก็ไม่ได้เปลี่ยนไป กลับได้แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์การทำสวนผลไม้  และได้เอื้อเฟื้อน้อง ๆ ที่คิดจะปลูกผลไม้ไว้ในบ้าน เช่น ไผ่ ขนุน มะปราง แก้วมังกร  ได้ให้พันธุ์ไปหลายราย เมื่อก่อนดื่มกินกันที่ร้านในเมือง เมาแล้วกลับบ้านมือเปล่า เดี๋ยวนี้เพื่อนฝูง น้อง ๆ มาทานที่บ้าน ที่สวนแล้วได้พันธุ์ไม้ ผลไม้กลับบ้านด้วย 
ตอนที่รับราชการ เวลาไปประชุมสัมมนาต่างจังหวัด ก็จะซื้อของฝากกลับบ้าน แต่พอเริ่มทำสวนมองหาพันธุ์ไม้กลับบ้าน เช่น กิ่งพันธุ์ส้มโอที่ชัยนาท  ไผ่ตงลืมแล้งที่นครสวรรค์  สะตอที่หลังสวนชุมพร ฯลฯ วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป  วันที่ทางกระทรวงฯ จัดเลี้ยงเกษียณ ท่านรองปลัดกระทรวงฯถามผู้เกษียนว่าเกษียนแล้วจะไปทำอะไร บางคนก็ตอบว่าดูแลหอพัก บางคนก็จะท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ บางคนก็เลี้ยงหลาน  ผมตอบว่าผมจะทำสวน ผมจะย้อนกระแสสังคมดูบ้าง เพราะเที่ยวก็ไปมามากแล้ว  บ้านเช่าก็มี ค้าขายก็เคยทำมาแล้ว  ก็เลยคิดทำสวน ไม่ได้คิดเล่น ๆ นะ ทำมา 5 – 6 ปี การทำสวนของผมไม่ใช่นั่งสั่งคนงาน ผมทำเองทุกอย่าง เลือกพันธุ์ ขุดหลุมปลูก ตัดแต่งกิ่ง ดูแล ตัดหญ้าถ้าไม่ไหวก็มีคนงานช่วย รดน้ำ ให้ปุ๋ย พ่นสารกันแมลง ให้ฮอร์โมนเร่งดอก เร่งผล ทำเองทุกอย่าง และแล้ววันนี้ก็มีผลผลิตให้เชยชมแล้ว

ได้ต้อนรับเพื่อนฝูง

น้อง ๆ ตำรวจมาพักผ่อน


น้อง ๆ สาธารณสุขมาสังสรรค์
ความสุขของคนเรา อยู่ที่ใจ อยู่ที่สุขภาพกาย ทำอย่างไรเราจะทำได้ทั้งสองอย่างนี้ บางคนก็ออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ บางคนก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม  แต่ผมขอปฏิบัติกับธรรมชาติ ได้ทั้งสุขกาย สุขใจ สุขครอบครัว  และญาติพี่น้อง ด้วยครับ




               สวนห้วยผึ้ง..จันทร์ผา ยินดีต้อนรับ

2 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดครับ อาจารย์ สวรรค์บนดินจริงๆ ขอบพระคุณครับที่ได้เเขร์ประสบการณ์ให้ รุ่นน้องๆ อย่างผมได้ ฟัง น่าประดับใจแทนอาจารณ์จริงๆ ครับ



    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ามีโอกาสเชิญบนสวนครับ ช่วงนี้มะยงชิด ทุเรียน ส้มโอ มะไฟ กำลังมีดอก ถ้ามีผลผลิตสุกก็เชิญไปชิมนะครับ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ