"เขื่อนสิริกิติ์" เดิมเขื่อนนี้ เรียกชื่อว่า เขื่อนผาซ่อม ต่อมาได้รับพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นามว่า เขื่อนสิริกิติ์ เมื่อ พ.ศ. 2511 โดยก่อสร้างปิดกั้นแม่น้ำน่าน บริเวณเขาผาซ่อม ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
ที่นี่ปีนี้ทางเขื่อนอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวดีมาก .... ที่จอดรถให้จอดบนสันเขื่อน ขึ้นทางฝั่งน้ำด้านเหนือ แต่พอขากลับให้ลงทางฝั่งน้ำด้านใต้ เรียกว่าขับรถขึ้นไปพักผ่อนชมวิว รับประทานอาหารเสร็จ ก็เดินทางผ่านสันเขื่อนลงอีกด้านหนึ่งฝั่งใต้ของแม่น้ำน่าน ทำให้มองเห็นภาพอ่างเก็บน้ำเต็มตาเลยครับ ...
สันเขื่อน.....อ่างเก็บน้ำช่วงเมษา 2555
บรรยากาศบนสันเขื่อนก็มีนักท่องเที่ยวมากันอย่างล้นหลาม มีซุ้มร้านอาหารจำหน่าย ครอบครัวนักท่องเที่ยวนำรับประทานอาหารกันเป็นกลุ่ม ๆ อาหารที่ขึ้นชื่อของร้านบนสันเขื่อนคือ ปลาเผา ส้มตำ หมูย่าง ฯลฯ อร่อย ๆ ทั้งนั้น
ที่สะดุดตาก็คือมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งกำลังสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่ออาหารพื้นบ้านวัฒนธรรมล้านช้างจังหวัดอุตรดิตถ์ รูปแบบของน้อง ๆ นักศึกษาก็คือ ปรุงอาหารพื้นบ้านประมาณ 11 อย่าง มาบริการให้นักท่องเที่ยวชิม ใครชิมแล้วชอบชนิดไหนก็จะตักใส่ภาชนะพลาสติก ให้ไปนั่งทานได้ พร้อมกับมีข้าวเหนียวห่อใบตองให้ด้วย
นักท่องเที่ยวกำลังชิมอาหารพื้นบ้านและกรอกแบบสำรวจ
ผมเห็นเป็นกิจกรรมที่น่าส่งเสริมก็เลยชวนญาติๆเข้าไปชิมและตอบแบบสอบถาม ผมเคยรับราชการอยู่แถบอำเภอที่มีวัฒนธรรมนี้เป็นเวลาหลายปี เห็นว่าน้อง ๆ กลุ่มนี้เป็นเด็กรุ่นใหม่ และเลือกกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมพื้นบ้านของแถบนี้ไว้ จึงภูมิใจและสนับสนุนครับ ผมจะแนะนำอาหารที่น้อง ๆ ทำมาให้ชิมทีละอย่างนะครับ...
เอาะผัก แกงเอาะผัก (เป็นชื่อเรียกของชาวอำเภอน้ำปาด อำเภอฟากท่า อำเภอบ้านโคก รวมถึงพี่น้องชาวลาว )
หน้าตาอาหารจานนี้ถ้าไม่ใส่ไก่ ก็คล้าย ๆ จอผักกาดของทางภาคเหนือเลยละ
เอาะไก่
อีกจานคือเอาะไก่ จานนี้เหมือน ๆ กับแกงหยวกใส่ไก่ ใส่กะทิด้วย รสชาติอร่อยไปอีกแบบ
จานนี้เป็นแกงหมักหมี้ปลาย่าง (แกงขนุนใส่ปลาย่าง) แกงนี้ถือเป็นมงคลสำหรับคนที่ชอบเอาเคล็ดเรื่องการเสริมดวง เขาว่ากันว่ากินแกงขนุนวันขึ้นปีใหม่จะมีความรุ่งเรือง ร่ำรวย เพราะกินของหนุนมา ถ้าจะให้ดีก็ใส่หมู ใส่กล้วยด้วยจะยิ่งดีไปใหญ่ ทำอะไรจะได้หมู ๆ กล้วยๆ ดูหน้าตาแกงจานนี้กัน
จานนี้แกงหมักหมี้ใส่กระดูกหมู พูดถึงขนุนตอนนี้ทุกสวนจะออกลูกดก กินได้ทั้งสุก ดิบก็นำมาประกอบเป็นอาหารอย่างที่น้อง ๆ ทำกัน ชาวเขตอำเภอน้ำปาด ฟากท่า บ้านโคกเรียกขนุนว่า หมักหมี้
อ่อมบอนหนัง
จานนี้เป็นอ่อมบอนหนัง บอนเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ขึ้นในที่ชื้นมีน้ำขัง นำมาประกอบอาหารหรือเลี้ยงสัตว์ ถ้านำมาประกอบอาหารต้องทำให้เป็นไม่เช่นนั้นจะคันเมื่อเวลารับประทาน คนในหมู่บ้านจะมีแม่ครัวที่แกงเก่ง ๆ อยู่ไม่กี่คน แต่ละคนก็จะมีเคล็ดลับเป็นของตัวเอง ส่วนหนัง คือหนังหมู หรือหนังวัว หรือหนังควาย ที่นำมาเคล้าเกลือตากแห้งเวลาทำต้องแช่น้ำก่อน ....ตอนที่ย้ายมารับราชการใหม่ ๆ ขึ้นมาพื้นที่เขตนี้ เอาหนังที่เขาหมักเกลือตากแห้งแล้ว นำไปย่างไฟ ทุบ ๆ ให้แตกนำมาเคี้ยว(เหนียวมาก) แกล้มสาโท อร่อยอย่าบอกใคร
อ่อมบอนหมู
จานนี้เช่นกันเป็นแกงที่ทำจากบอน แต่ใส่หมู ใส่กะทิด้วย
แกงหน่อไม้
จานนี้ขาดไม่ได้ทางพื้นที่แถบนี้ ถ้าไปนิเทศงานทุกครั้งต้องบอกให้เตรียมอาหารพื้นบ้านแบบนี้ไว้เลย นั่นคือแกงหน่อไม้ ใส่น้ำคั้นใบย่านาง
แกงหน่อไม้ทรงเครื่อง
ส่วนจานนี้เป็นแกงหน่อไม่ทรงเครื่อง หน้าตาน่ารับประทานมาก ใส่ฟักทอง บวบ ใส่เห็ดขอนขาว(เห็ดที่ขึ้นในท้องถิ่น) อร่อยครับจานนี้
แกงหยวกใส่กะทิ
นี่เป็นอีกจานที่ทำยากหยวกกล้วย เป็นแกงหยวกใส่กะทิ คนชอบกะทิ ก็จานนี้เลยครับ จานนี้น้อง ๆ ใส่เส้นขนมจีนตากแห้งลงไปด้วย เป็นแกงพื้นเมืองทางนี้จริง ๆ เพราะแกงบางชนิดเขาจะใส่เส้นขนมจีนตากแห้งไปด้วยครับ
สุดท้ายแกงยอดฮิตของวัฒนธรรมพื้นเมืองแถบนี้ คือแกงผักหวาน ถ้าจะให้ได้รสชาติจริง ๆ ต้องใส่ไข่มดแดง ถ้าท่านขับรถจากอุตรดิตถ์ ขึ้นไปทางน้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก ท่านจะเห็นยอดผักกองบนพื้นแคร่ไม้ไผ่ข้างทาง และมีห่อใบตองวางมากมาย นั่นคือยอดผักหวาน ซึ่งจะเริ่มออกตั้งแต่เดือนมีนาคม จนต้นเดือนพฤษภาคม และ จะมีจานใส่วัตถุเป็นเม็ดๆ สีขาว ๆ ให้ท่านลงไปดูได้เลยนั่นคือไข่มดแดง แต่ที่น้อง ๆ ทำวันนี้น้องเลือกใส่ไก่ เพราะไข่มดแดงแพงมาก นั่นเอง ดูหน้าตาแกงจานนี้กันครับ
พาญาติ ๆ และแนะนำนักท่องเที่ยวชิมฝีมืออาหารพื้นเมืองของวัฒนธรรมล้านช้างอุตรดิตถ์จนครบทุกอย่าง น้อง ๆ บริการน้ำครบถ้วน แล้วเดินชมวิว ทิวทัศน์ แวะร้านขายของฝาก ซื้อปลาเผา แล้วเดินทางต่อไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น อิ่มใจครับที่ได้มาถึงวัฒนธรรมล้านช้าง ได้เหยียบแผ่นดิน ได้กินอาหาร ได้สำราญกับธรรมชาติ ของจังหวัดอุตรดิตถ์.......
ขอขอบคุณน้อง ๆ ทีวิจัยทุกคน อาจารย์ที่ปรึกษา และผู้ร่วมกิจกรรมดี ๆ ด้วยความจริงใจครับ และถ้ามีโอกาสเชิญให้คำแนะนำ ที่สวนห้วยผึ้ง จันทน์ผา ลับแลบ้างครับ ยินดีต้อนรับ...............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ