เรื่องนี้...HOT จริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

ที่ตั้ง ความเป็นมา สวนหัวยผึ้ง...จันทร์ผา

สวนห้วยผึ้ง..จันทร์ผา  อยู่ที่หมู่ 11 ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากตัวอำเภอลับแล 5 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์  10 กิโลเมตร  อยู่หน้าวัดหัวยผึ้ง โพธิบัลลังก์  เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ขึ้นกับหมู่บ้านทุ่งเอี้ยงพัฒนา ชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่าบ้านหัวยผึ้ง    บ้านห้วยผึ้งห่างจากบ้านทุ่งเอี้ยงพัฒนา 3 กิโลเมตร

ต้นลำใยเมื่อเข้าไปพัฒนาใหม่ๆ

             สวนห้วยผึ้ง..จันทร์ผา เริ่มพัฒนาเมื่อปี 2549 เนื่องเกิดน้ำท่าม ดินถล่ม ผมเลยต้องเตรียมหาที่อยู่ที่ปลอดภัย ก็เลยเริ่มพัฒนาตั้งแต่นั้นมา สภาพสวนเดิม ๆ ปลูกลำใย ต้นลำใยโตมาก ผลผลิตไม่ค่อยดีราคาก็ถูกมาก ๆ ที่เห็นในภาพ กิโลละไม่ถึง 5 บาท  และมีส้มโอที่เจ้าของเดิมคนแรก ๆ ปลูกไว้มีผลผลิตบ้างแต่ต้นโตมากลูกเริ่มเล็กลง ที่บางส่วนเจ้าของเดิมทำเป็นไร่ปลูกหอม ปลูกข้าวโพด  สภาพค่อนข้างรกมาก ๆ ตอนเย็น ๆ มีหมาป่า (หมาโจ๊กโจ่)หอนบนเขาเต็มไปหมด แต่ตอนนี้ถูกชาวบ้านล่าจนเกือบไม่เหลือแล้ว 


มองจากบ้านพัก


ปรับปรุงบ้านสวนเพื่อรับน้ำท่วม ปี2550
             เริ่มพัฒนาตอนแรก ก็เป็นเหมือนคนลับแลทั่วไป คือต้องปลูกลางสาด ลองกอง  ทุเรียน  ตามธรรมชาติไม้เหล่านี้จะได้ผล ก็ต้อง 7-8 ปีขึ้นไป  จะปลูกเหมือนชาวบ้านคงไม่ทันกินแน่ จึงเริ่มปลูกไม้ผลทุกอย่าง โดยนำร่องด้วยกล้วยน้ำว้า  กล้วยหอม กล้วยไข กล้วยเล็บมือนาง  เพื่อเป็นไม้ร่มเงา แล้วตามต้วย ลางสาด ลองกอง ทุเรียน มะปราง(มีทั้งมะยงชิด และมะปรางหวาน)
บางส่วนก็ปลูกมะนาว แก้วมังกร มะม่วง มะไฟ  มะละกอ ชมพู่ ระว่างต้นลองกองที่ปลูกห่างกัน ปลูกชะอม แซมไว้ก่อนเก็บยอดขาย และยังเป็นไม้ร่มเงาได้ด้วย  ส่วนลำใยก็ยังมีบ้างไม่ได้ตัดทิ้งทั้งหมด ที่ขาดไม่ได้สำหรับลูกคือตะลิงปิง


ตะลิงปิง ตอนแรกขายไม่ได้  แจกฟรี  ตอนนี้มีคนสั่งทุกวัน

ส้มโอมี 10 กว่าต้น


           ผมขอบอกทุกท่านก่อนว่าผมไม่ใช่ชาวสวน ผมรับราชการ ทุกเย็นผมจะแวะที่สวนก่อนเข้าบ้าน เสาร์ อาทิตย์จะอยู่สวนเต็มวัน พัฒนามา 5 ปี เริ่มเห็นผลผลิต มีเพื่อนฝูง น้องๆ ไปพักผ่อนกันในฤดูหนาวบ้าง อากาศก็หนาวดี ข้อดีคือใกล้ตัวเมือง แต่ได้สภาพแวดล้อมของป่าในการพักผ่อน ว่าง ๆ ผ่านไปแวะให้คำแนะนำบ้างนะครับ
           การทำสวนของผมไม่ได้หวังไว้ค้าขาย ทำเพื่อพักผ่อน ทำเพื่อให้ลูก ๆไปพักผ่อน และเอาผลผลิตไปฝากเพื่อน ญาติผู้ใหญ่ ผลผลิตมากก็เก็บไปขายบ้าง ทำอย่างพอเพียง มีความสุขดี ตอนนี้ผมลาออกจากราชการมาพักผ่อนที่สวนแล้ว  อยู่กับธรรมชาติ เพลินกับธรรมชาติ ไม่วุ่นวายใจ....สุขภาพใจ กาย ดีขึ้นครับ....

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ21 พฤษภาคม 2558 เวลา 10:28

    ดีมากๆเลยค่ะ อยากทำสวนผสมอย่างคุณจังเลย แต่ที่ดินแถวๆสวนคุณคงแพงมากนะคะ อยู่ทางอิสาณ ปัญหาเรื่องน้ำและสวนที่อยู่ดินมีแต่ปลวกปลูกอะไรก็ใบหงิกหมด ชักท้อใจ ก็ทำสวนเล่นๆเป็นการออกกำลังหลังเกษียณ อยากมีสวนในฝันอย่างของคุณจัง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี

    ตอบลบ
  2. ราคาที่ดินก็แล้วแต่ทำเลครับ ที่เป็นสวนแล้วก็ตกไร่ละ 2 แสน ที่ยังไม่เป็นสวนก็ถูกครับ ทำสวนต้องลองผิดลองถูกครับ เช่นปลวกเราจะพึ่งเคมีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ผมใช้ทั้งเกลือแกงหว่าน โรยรอบจอมปลวก ยอมซื้อแย้มาปล่อย 50 ตัว ยอมซื้ออาหารนกกินแมลงไปวางไว้เพื่อให้จิ้งเหลนสวนได้กิน จะได้มาอาศัยในสวนและจะกำจัดปลวกได้ ส่วนต้นไม้ก็ต้องดูครับว่าต้นอะไรต้องการน้ำมากน้ำน้อย เช่น เพกา มะขาม มะขามป้อม มะปราง ต้องการน้ำน้อย ส่วนลำใย ลองกอง ทุเรียน มะละกอ มะม่วง ต้องการน้ำมากกว่าพวกแรก ถ้าเราไม่ศึกษาก็ล้มเหลวครับ ทำสวนต้องทำเอาสนุกครับ อย่าหวังผลมากนัก พวกเราเป็นข้าราชการบำนาญมีรายได้ประจำอยู่แล้วดีกว่าชาวสวนมืออาชีพครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ