เรื่องนี้...HOT จริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เข้าพรรษา..มาเที่ยวสวนห้วยผึ้งจันทร์ผา

เข้าพรรษาปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันยาว ตั้งแต่วันที่ 2-4 สิงหาคม หลังจากไปทำบุญในวันอาสาฬหบูชา ก็เข้าไปอยู่บ้านสวน ตกสาย ๆ ก็มีญาติพี่น้องจากจังหวัดพิษณุโลกมาเที่ยวสวน ก็พาเดินดูตั้งแต่ระดับพื้นล่างธรรมดา จนถึงเกือบถึงจุดสูงสุดและเป็นธรรมดาตอนกลับก็ขอพันธุ์ไม้ไปเช่นเคย
 พอวันเข้าพรรษาหลังจากทำบุญเสร็จ ก็ไปอยู่บ้านสวนคราวนี้เรื่องใหญ่ ผู้จัดการสวน(ลูกสาวคนโต)อยากจะไปเที่ยวสวนกับเพื่อน ๆ ก็เลยให้เอารถกระบะคันใหญ่ขับเข้าไป พอไปถึงคราวนี้เอาจริง เห็นแต่งตัวทะมัดทะแมง พร้อมที่จะขึ้นไปบนจุดสูงสุด เมื่อไปถึงดูโน่น ดูนี่ ใกล้ ๆ บ้านพักก็สั่งการเป็นการใหญ่ ต้นส้มโอให้เอาออก เอาไว้ไม่ต้องมาก ให้ลงทุเรียนแทน ตรงจุดกลางทางให้ทำที่นั่งพัก โอ้ย...ไปถึงก็สั่งใหญ่ ธรรมดาของผู้จัดการเพราะอนาคตเขาก็ต้องเป็นเจ้าของอยู่แล้ว
ผู้จัดการเติมพลังด้วยมะม่วงจิ้มเกลือก่อนขึ้นดอย
 หลังเตรียมเนื้อเตรียมตัวพ่นยากันยุงที่หมวก ที่กางเกง ก็เริ่มออกเดินจากทางเดินชั้นที่ 1 บริเวณบ้านกลางสวน ไปถึงจุดพักทางเดินชั้นที่ 2 คราวนี้พาเดินตัดตรงขึ้นไปถึงทางเดินชั้นที่ 3 หยุดถ่ายรูป
หยุดถ่ายรูปกับคนสวน..ดูเหมือนจะยังไหว
ยังไหว...งั้นไปต่อ
ดูเหมือนยังไม่เหนื่อย แต่เพื่อนวิ่งลัดขึ้นถึงทางเดินชั้นที่ 4 เพื่อที่จะไปถ่ายรูป ผมบอกไม่ต้องลงมา ให้เดินขึ้นเหนือไปเรื่อย ๆ ทางชัน เพราะชั้นที่ 3 กับชั้นที่ 4 ก็จะไปประจบกันเมื่อข้ามร่องห้วยไปแล้ว พอเดินไปถึงก็หยุดถ่ายรูปผู้จัดการอีกรอบ คราวนี้หมวกไม่อยากใส่แล้ว เอาไว้พัด แต่ก็ยังติดใจวิวสวย ๆ
ถึงจะแสนเหนื่อยก็ต้องเก๊ก...ไว้ก่อน
 แล้วพาเดินกลับ ลองชวนขึ้นไปทางเดินชั้นที่ 5 สุดท้ายไม่ยอมขึ้นไป แล้วขาลงก็เดินลงตามทาง ปรากฏว่าโดนยุงเล่นงานเสียอ่วม ระหว่างทางกลับก็เพลิดเพลินกับการเก็บพริกขี้หนูท่ามกลางฝูงยุง คงเข็ดไปอีกหลายวัน
ต้นกล้าจ้างคนเอาขึ้นไปบนเขา...ฝนไม่ตกต้องเอาลงเอง พร้อมกับลูกน้องซึ่งเวลาเดินจะเข้าไปอยู่ในย่าม
หลังจากลงจากดอยก็เริ่มทำอาหาร ก็เหมือนเดิมส้มตำเป็นอันดับแรก ต้มยำปลาย่าง หมูย่าง กับข้าวเหนียวก็อร่อยแบบบ้านป่าบนดอย  ผู้จัดการพร้อมเพื่อน ๆ และแม่เดินทางกลับ ผมยังอยู่ในสวน เวลาประมาณ 15 นาฬิกา ก็ได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวที่อยู่ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ว่าจะพาน้องชายที่อยู่สัตหีบและครอบครัวเข้าไปเที่ยวสวน ก็รอต้อนรับเหมือนเดิม ญาติชุดนี้ติดใจน้ำชาศาลาก้อนเส้าเตาไฟ ถ้วยชาที่ใช้ผมทำจากกระบอกไม้ไผ่ วันนี้ทำชา ตะไคร้หอม ใบเตย ต้นมะรุม ก็เป็นชาบนดอยที่ผมทำดื่มทุกวันแล้วแต่จะขยันหาสมุนไพรมาทำ หลานสาวติดใจลองกองบอกว่าไม่เคยเห็นลองกองที่ออกลูกติดดินจนเกือบถึงยอด


ลองกองรุ่นที่ 2 ที่จะสุกกลางเดือนกันยา
 พอได้เวลาก็พากลับบ้านที่ตลาดหัวดง นั่งสังสรรค์ร้องเพลงคาราโอเกะ หลานสาวและเพื่อน ๆ ติดใจเครื่องเสียงชุดที่เอาเข้าไปใช้ในสวนเวลามีงานสังสรรค์ เพราะลำโพงผมทำจากถังน้ำมัน เป็นชุดคาราโอเกะขนาดเล็ก ส่วนหลานชายสนใจการตอนมะละกอ การตอนลงกองด้วยการเสริมราก ก็สาธิตให้ดูจนพอเข้าใจ  ตอนกลับก็ได้มอบพระเหล็กน้ำพี้ ไหลน้ำพี้ ไหลดำ ไหลเขียว พร้อมต้นกล้าจันทน์ผา
พริกขี้หนูสวน ขึ้นเรียงรายเป็นระยะ ๆ ชวนให้แวะเก็บ พร้อมกับยุงก็เยอะ
เข้าพรรษาปีนี้นอกจากได้ทำบุญ และยังได้ต้อนรับญาติพี่น้อง รวมถึงท่านที่สนใจเรื่องทำสวน  พอว่าผมทำสวนเริ่มเข้ามาดูหลายคณะ ถ้าท่านอยากมาชม มาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว ๆ ก็เชิญนะครับ ที่สวนไม่มีที่พัก แต่เที่ยวชมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการทำสวนกัน และถ้ามีเวลาก็รับประทานอาหารกันตามมีตามเกิด ท่านชอบทานอะไรก็ซื้อเข้าไป ส่วนส้มตำ หรืออาหารในสวนก็บอกครับช่วยกันทำรับประทาน ถึงจะไม่เหมือนที่เขามีขาย แต่ก็อร่อยแบบเราทำกันเอง สวนไม่ไกลจากในเมืองอุตรดิตถ์ ...ถ้าสนใจอย่าลืมโทรแจ้งล่วงหน้าก่อนนะครับ....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ