เรื่องนี้...HOT จริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ลางสาด ผลไม้ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์

จากคำขวัญจังหวัดอุตรดิตถ์ “เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน บ้านพระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก” หรือจะเป็นคำขวัญของอำเภอลับแล “งามพระแท่นศิลาอาสน์  ถิ่นลางสาดรสดี   เมืองพระศรีพนมมาศ  แหล่งไม้กวาดตองกง ดงหอมแดงลือชื่อ  งามระบือน้ำตกแม่พูล”   จะเห็นได้ว่าทั้งสองคำขวัญจะมีผลไม้ประจำจังหวัดที่ขึ้นหน้าขึ้นตาจนกล่าวขานกันตลอดมา จนได้เป็นสัญลักษณ์ของจังวัด นั่นก็คือ...ลางสาดลับแล
ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
http://www.easternlanna.org/travel_amoung_utd.php
ลางสาด ต้นกำเนิดเดิมอยู่ตามหมู่เกาะมาลายู ชวา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์  ซึ่งเป็นประเทศแถบอากาศร้อนชื้น  อำเภอลับแล ก็มีสภาพอากาศเหมาะสมที่ลางสาดจะเจริญเติบโตได้ดี  ชาวสวนลับแลดั้งเดิมมีการปลูกลางสาดกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งผู้นำการปลูกในยุคนั้นคือพระศรีพนมมาศ นายอำเภอคนแรกของอำเภอลับแล แต่การปลูกลางสาดของชาวสวนส่วนใหญ่ก็จะปลูกโดยการใช้เมล็ด ไม่มีการจัดระเบียบสวน นึกอยากจะปลูกตรงไหนก็ปลูก บางสวนต้นลางสาดจะอยู่ใต้ต้นทุเรียน หรือที่ท่านเห็นในหมู่บ้านจะเห็นต้นลางสาดอยู่ใต้ต้นมะพร้าว อยู่ใต้ต้นหมาก จนดูเป็นป่าไปหมดทั้ง ๆ ที่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน
ต้นลองกองอายุ 6 ปี
ดอกลองกอง
เนื่องจากลางสาดเป็นผลไม้ที่มีเปลือกบาง เก็บได้ไม่นาน ถึงแม้บางท่านจะติดใจในรสชาติ แต่เนื่องจากขนส่งไปไกล ๆ ไม่ได้จึงไม่เป็นที่นิยม  ชาวสวนในปัจจุบันจึงเปลี่ยยอดพันธุ์เป็นลองกอง วิธีการก็คือตัดต้นลางสาดให้ตอสูงประมาณ 1 เมตร พอเริ่มมีแขนงแตกออกมา ก็เลี้ยงกิ่งแขนงให้โตพอประมาณแล้วจึงนำยอดลองกองมาเสียบ เมื่อติดแล้วก็จะตัดยอดลางสาดออก ดูแลต่อจนกระทั่งติดผล ก็จะได้ลองกองลับแล มีบางท่านพยายามจะเรียกลองกองที่ต่อบนต้นตอลางสาดว่าเป็นลางกอง  ที่สวนห้วยผึ้งจันทน์ผา เจ้าของเดิมปลูกต้นลูกูไว้ ผมก็นำยอดลองกองไปต่อ แต่ติดยากกว่าต้นลางสาดมาก แล้วจะให้เรียกชื่อว่าอะไร...ผมว่าเรียกลองกองลับแล นั่นแหละดีแล้ว ....
ผลผลิตลองกอง
สำหรับรสชาติของลองกองลับแล จะแตกต่างกับรสชาติลองกองของภาคใต้ เพราะลองกองลับแลจะมีรสชาติหวานกลมกล่อม ถ้าไม่สุกงอมมากนักก็จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว  ผมเคยนำลองกองลับแลไปฝากผู้ใหญ่ที่กระทรวงฯ เห็นเจ้าหน้าที่ที่มาจากภาคใต้แบกกล่องลองกองตันหยงมัสไปฝากเหมือนกัน  ส่วนที่ผมเอาไปเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงเอาลองกองลับแลไปให้ท่านชิมและยังแจกเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายให้ชิมกันด้วย  พอผมเดินทางกลับมาเกือบครึ่งทางเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าท่านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายถามว่าผลไม้อะไรเหมืองลองกอง แต่รสชาติไม่เหมือนลองกองตันหยงมัส ผมก็บอกกลับไปว่า......ลองกองลับแล...
ลองกองวางขายที่ตลาดผลไม้หัวดง
ช่วงเดือน กรกฎาคมนี้ลางสาดลับแล  ลองกองลับแล กำลังเริ่มสุก  ที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง อำเภอลับแล เริ่มมีออกมาวางจำหน่ายแล้ว คาดว่าปีนี้จะมีลางสาดลับแล และลองกองลับแลจะออกสู่ตลาดมาก เพราะจากที่สังเกตจากสวน ช่อดอกลองกองติดมากจนต้องจ้างคนไปเด็ดช่อดอกออก ให้เหลือกิ่งละไม่มาก ไม่เช่นนั้นลูกจะเล็ก ช่อดอกจะสั้น จึงคาดว่าผลผลิตน่าจะออกมากกว่าปีที่ผ่านมา....
ลองกองวางจำหน่ายราคาไม่แพง
ถ้าท่านว่างมีโอกาสผ่านไปทางอุตรดิตถ์ ก็ช่วยอุดหนุนลองกอง ลางสาด บ้างนะครับ พื้นที่ที่ปลูกในจังหวัดอุตรดิตถ์มีหลายอำเภอไม่ว่าจะเป็น อำเภอลับแล อำเภอเมือง อำเภอท่าปลา จะอุดหนุนที่ตลาดไหนก็แล้วแต่จะกรุณาครับ แต่ถ้าจะไปให้ถึงถิ่นดั้งเดิมของลางสาด ก็เชิญที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง ตำบลแม่พูล อำเภอลับแลครับ ท่านที่ติด GPS ก็ตั้งหน้าจอไว้ที่วัดหัวดง หรือเทศบาลหัวดง ก็ได้ครับ เพราะตลาดอยู่ติดวัดและเทศบาลนั่นแหละครับ  ส่วนรสชาติเป็นอย่างไรก็ลองไปชิมกันนะครับ ....
ขอขอบคุณข้อมูลภาพจาก..
                                   http://www.easternlanna.org/travel_amoung_utd.php

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ของดี อุตรดิตถ์

“เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน บ้านพระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก” คำขวัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ คำขวัญนี้มีที่มาและแต่ละสิ่งที่ปรากฏในคำขวัญจังหวัดล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปทั้งสิ้น
เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เหล็กน้ำพี้เป็นแร่เหล็กที่พบมากที่สุดในตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ในหลักฐานที่ปรากฏจะมีบ่อเหล็ก 2 บ่อ บ่อแรกเรียกว่าบ่อพระแสง อีกบ่อหนึ่งเรียกบ่อพระขรรค์ สมัยที่ผมมารับราชการที่อุตรดิตถ์ใหม่ ๆ บริเวณบ่อเหล็กนี้จะเป็นป่าไผ่ ไม่เป็นที่สนใจของผู้คนมากนัก การที่เราจะลัดเลาะเข้าไปยังบ่อเหล็กทั้ง 2 นี้ เป็นทางที่ชาวบ้านใช้ออกหาของป่า ต่อมามีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแร่เหล็กน้ำพี้เป็นที่นิยมสำหรับการทำเครื่องราง หรือ วัตถุมงคลต่าง ๆ จนกระทั่งโด่งดังที่สุดช่วงจตุคาม ถ้ารุ่นไหนไม่ผสมแร่เหล็กน้ำพี้จะไม่เป็นที่นิยม จนทางราชการต้องเข้าไปจัดการเรื่องการเอาแร่เหล็กออกนอกพื้นที่  

เมื่อท่านไปถึงบ่อฯ ทางเจ้าหน้าที่จะมีคันเบ็ดแม่เหล็ก ให้ท่านตกในบ่อทั้ง 2 บ่อ เมื่อท่านได้ก้อนแร่แล้ว ให้ท่านอธิษฐานขอจากเจ้าพ่อน้ำพี้ก่อนนำแร่ออกจากพื้นที่ ทางพิพิธภัณฑ์จะมีคำเตือนใต้ป้ายชื่อบ่อ   ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม...แต่ผมเชื่อครับ...


บ่อเหล็กน้ำพี้
แร่เหล็กน้ำพี้ ถือว่าเป็นแร่เหล็กที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในโลก ช่างตีดาบบ้านน้ำพี้กล้าท้าว่าดาบที่ทำจากแร่เหล็กน้ำพี้สามารถฟันเหล็กขนาด 2 – 4 หุนขาดโดยที่คมดาบไม่บิ่น 
ดาบที่ทำจากเหล็กน้ำพี้
เมื่อท่านไปถึงบ่อเหล็กน้ำพี้ก็อย่าลืมชมพิพิธภัณฑ์เหล็กน้ำพี้   ช่วงไปถ่ายภาพเป็นช่วงสงกรานต์ หุ่นในพิพิธภัณฑ์เลยมีมือบอนปะแป้งเต็มไปหมด (อนิจจัง....)
                                  ขุดหาแร่เหล็กน้ำพี้                                                    ถลุงแร่เหลำน้ำพี้
ตีดาบน้ำพี้
ยิ่งดังมาขึ้นเมื่อมีการค้นพบ ไหลดำ ไหลเขียว น้ำพี้ ตามข้อมูลว่าแร่ชนิดนี้บางประเทศค้นพบใต้ทะเลลึกเกิน 10 กิโลเมตร แต่ที่อุตรดิตถ์ค้นพบบนผิวดิน นี่เอง
ไหลเขียวน้ำพี้(http://entertainment.goosiam.com/news/html/0022522.html)

เมืองลางสาดหวาน...การปลูกลางสาดของจังหวัดอุตรดิตถ์ นิยมปลูกกันในอำเภอลับแล อำเภอเมือง อำเภอท่าปลา ต่อมามีการพัฒนาพันธุ์โดยการนำยอดลองกองมาเสียบ พอเสียบได้ผลผลิตบางคนก็เรียกลางกอง  ผมว่าเรียกลองกองนั่นแหละดีแล้ว
ที่ภาคใต้เขานำยอดลองกองไปเสียบต้นลูกู ไม่เห็นเขาเปลี่ยนชื่อเลย   ตอนนี้ลางสาดมีปริมาณที่ลดน้อยลง  แต่ช่วงนี้คนที่ชอบรับประทานลางสาดยังถามหาลางสาดลับแลอยู่เสมอแต่เริ่มหายากขึ้นทุกทีครับ  มีบางคนบอกว่าไม่นานลางสาดจะเป็นพืชที่คนลับแลต้องอนุรักษณ์
ลางสาด(http://www.taklong.com/north/show-north.php?No=414499)
บ้านพระยาพิชัยดาบหัก...เป็นแหล่งกำเนิดของท่านพระยาพิชัยดาบหัก ทหารเอกของพระเจ้าตากสินมหาราช  ท่านเกิดที่บ้านห้วยคา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ปัจจุบันมีการพัฒนาบริเวณบ้านเกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัตศาสตร์  ถ้าท่านมีโอกาสไปเที่ยวอุตรดิตถ์ ก็สามารถแวะเที่ยวได้โดยเมื่อท่านขับรถจากพิษณุโลกถึงแยกวัดหลักร้อย ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปขับไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทาง เข้าไปเที่ยวบ้านเกิดท่านพระยาพิชัยดาบหัก วีระบุรุษทางประวัติศาสตร์ของไทยอีกท่านหนึ่งที่ทุกท่านควรศึกษา
อนุสาวรีย์พระยาพิชัยที่บ้านเกิด
ถิ่นสักใหญ่ของโลก... ต้นสักใหญ่อยู่ที่บ้านปางเกลือ ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของวนอุทยานสักใหญ่ ปัจจุบันมีการพัฒนา มีพิพิธภัณฑ์  มีเจ้าหน้าที่บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว นอกจากจะมีต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ต้นสักที่เป็นบริวาณก็ต้นใหญ่ไม่น้อยทีเดียว นับว่ามีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง
คุณจำเนียร(แม่บ้าน)พาแฟน ๆ Blog ไปชมต้นสักใหญ่
สรุปแล้ว ถ้าท่านมาเที่ยวอุตรดิตถ์โดยเดินทางออกจากจังหวัดพิษณุโลก เข้าเขตอำเภอพิชัย แวะเที่ยวบ้านเกิดพระยาพิชัย  แล้วเลยไปเที่ยวอำเภอลับแลชมต้นทุเรียน ลางสาด ลองกอง แล้วเดินทางต่อไปแวะชมเขื่อนสิริกิต์ แล้วเลยไปชมต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก แล้วเดินทางต่ออีกไม่กี่กิโล ถึงแยกน้ำไคร้เลี้ยวขวาเดินทางต่อไปถึงตำบลน้ำพี้ ชมบ่อเหล็กน้ำพี้ ก็ครบสถานที่ตามคำขวัญของจังหวัดอุตรดิตถ์แล้วครับ
                                       วัตถุมงคลที่ทำจากเหล็กน้ำพี้              ก้อนแร่ไหลดำ ไหลเขียวน้ำพี้
สำหรับแฟน ๆ Blog ที่ไปเที่ยวอุตรดิตถ์ แล้วเลยไปที่บ้าน พอทราบว่าอุตรดิตถ์ มีเหล็กน้ำพี้ที่โด่งดัง ก็อยากได้ไปเป็นที่ระลึก ระยะนี้ผมก็พอมีแจกให้ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคล  หรือ เป็นไหลดำ ไหลเขียว แต่ขอบอกว่าวัตถุมงคลที่กลุ่มชุมชนน้ำพี้เขาทำจำหน่ายที่ศูนย์จำหน่ายน้ำพี้  บางอย่างยังไม่เข้าพิธี ท่านต้องนำไปเข้าพิธีปลุกเสกเอง  ส่วนที่ผมมอบให้ไปนั้นผมทำแจกตอนเกษียณอายุราชการ ได้นำไปให้หลวงปู่แดงวัดถ้ำฉลองอธิษฐานจิต และยังนำไปให้หลวงปู่แขกพิษณุโลกพิจาณาอธิษฐานจิตให้ ตอนนี้ใกล้หมดแล้วเพราะแจกทุกท่านที่ไปเยี่ยมครับ   ส่วนไหลดำ ไหลเขียว ไม่มีแจกแล้วครับหมดจริง ๆ ถ้าต้องการก็ต้องจัดโปรแกรมไปบ้านน้ำพี้ด้วยนะครับ สนนราคาไม่แพง เหมาะเป็นของฝาก ว่าท่านได้เคยไปอุตรดิตถ์มาแล้ว...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก




วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปลูกแก้วมังกร ให้ผลดีที่สวนห้วยผึ้งจันผา อ.ลับแล

ขณะที่ผมรับราชการนั้น  มีโอกาสรับผิดชอบเขตอำเภอน้ำปาด ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนเหนือของจังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนใหญ่พื้นที่เป็นภูเขา ขณะเข้าไปเยี่ยมหน่วยงานระดับตำบลแห่งหนึ่งในหุบเขา (ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำหลาก ดินถล่มในปัจจุบัน)  เห็นชาวบ้านบางครอบครัวปลูกแก้วมังกร สอบถามว่าได้ต้นพันธุ์มาจากชลบุรี และเก็บผลผลิตก็ส่งจังหวัดชลบุรีเท่านั้น  จึงขอซื้อกิ่งพันธุ์ที่ชาวสวนปักชำไว้ ตอนนั้นเจ้าของสวนคิดกิ่งละ 5 บาท ซื้อมาหลายกิ่งเหมือนกัน
ปลูกง่ายปลูกได้ทุกฤดู
ผมเริ่มทำสวนใหม่ ๆ ต้นทุเรียน ลองกอง ยังไม่โตมากนัก เลยคิดว่าการปลูกแก้วมังกรซึ่งเป็นไม้เสริมรายได้ขณะรอผลผลิตทุเรียน ลองกองน่าจะดี จึงสั่งท่อใยหินขนาด 6 นิ้ว จำนวน 100 ท่อน เพื่อทำเป็นหลัก จ้างคนงานขุดหลุมฝักท่อลงไปประมาณ 50 เซนติเมตร  เทปูนซีเมนต์ที่ฐาน ส่วนในรูท่อใช้ไม้ไผ่ผ่าแล้วเสียบลงตรงกลางรู เทปูนกรอกให้เต็ม ปลายท่อด้านบนก็เจาะรู 4 รูแล้วสอดเหล็กขนาด 4 หุนไขว้กันเป็นกากบาท นำยางรถจักรยานยนต์มาวาง มัดด้วยลวด การเตรียมหลักก็แล้วเสร็จ  แล้วจึงปลูกกิ่งพันธุ์แก้วมังกรที่ซื้อมาหลักละ 2-3 กิ่ง  การปลูกที่สวนผมไม่ได้มีการจัดโซน ที่ตรงไหนว่าง ต้องการปลูกตรงไหนก็ปลูกเลย เพราะคิดว่าถ้าต้นทุเรียน ลองกอง โตก็จะต้องเอาออกอยู่แล้ว

ตัดกิ่งเก่าออกบ้าง

แก้วมังกรที่วางขายในตลาดที่ชาวสวนปลูกในพื้นที่ทั่วไปก็จะมี 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์เนื้อในสีขาว และพันธุ์เนื้อในสีแดง ที่ได้กิ่งพันธุ์มาจาก อำเภอน้ำปาดเป็นพันธุ์เนื้อในสีขาว  ผมก็เลยต้องไปหาซื้อกิ่งพันธุ์เนื้อในสีแดงมาปลูกบ้าง ก็ได้มาสมใจ จากร้านขายพันธุ์ไม้ในตัวจังหวัด
 
เริ่มออกดอกคอยดูแลเรื่องมด
แก้วมังกรที่ปลูกเจริญงอกงามดีมากให้ผลเร็ว ส่วนปัญหาของการปลูกแก้วมังกร ก็มีมด มากัดกินดอก และผล ก็ใช้ยาฆ่ามดผสมอาหารวางไว้ตามโคนหลัก มดก็จะไม่มีมดมารบกวน  ส่วนที่ชาวสวนกลัวอีกอย่างก็คือตัวทาก หรือหอยทาก จะขึ้นกัดกินยอดอ่อน ดอก ผลอ่อน ทำให้เสียหาย ที่สวนผมใช้กากกาแฟสดที่ร้านกาแฟสดเขาทิ้ง นำมาผสมกับกากน้ำตาล ใส่จุลินทรีย์หมักทิ้งไว้ เวลาจะมีทากมารบกวน ก็จะเอาทั้งน้ำทั้งกาก ผสมน้ำเปล่าไปราด หรือฉีดทากหรือหอยทากก็จะหนีไป
ดอกบางส่วยเริ่มแห้ง บางดอกเริ่มบาน
เมื่อดูแลจนผลโตแล้วก็รอให้สุก การเก็บก็ต้องรอให้ผลออกสีแดงและมีเม็ดสีทองจุดเล็ก ๆ ปรากฎที่ผล แสดงแก่จัดแล้ว เมื่อตัดไปรับประทานรสชาติจะหวานนำ ไม่เปรี้ยว 
 
รอให้ผลสุกเต็มที่
ปัญหาที่ตามมาหลังปลูกได้ 2-3 ปี คือยอดแก้วมังกรออกมาก ต้องคอยตัดแต่งกิ่งเก่าทิ้ง ไม่เช่นนั้นยอดจะมีน้ำหนักมากทำให้หลักหัก หรือล้ม มีน้องที่มาจากปราจีนบุรี อยากปลูกบ้าง ผมก็ได้ตัดยอดพันธุ์ให้ไป และแนะนำให้ใช้ท่อใยหินหน้า 8 นิ้วเป็นหลัก  ปัญหาเรื่องหลักหักจะได้ไม่มี     การตัดยอดพันธุ์ เมื่อท่านตัดไปแล้วท่านต้องสังเกตว่าด้านไหนยอด ด้านไหนโคน ส่วนมากจะสังเกตจากหนามถ้าหนามตั้ง เป็นด้านยอด แต่ถ้าท่านตัดจากหลักที่ล้มนาน ๆ หนามจะไม่ตั้งไปตามยอด จะสังเกตยาก  ถ้าท่านไม่แน่ใจให้เอายอดพันธุ์วางไว้ในที่ร่ม รดน้ำนานๆ ครั้ง ไม่ช้ายอดใหม่ก็จะแตกออกตามตาหนามแล้วจึงนำไปปลูก
 
ปัญหาเมื่อมียอดมาก ก็จะหัก หรือล้ม

แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล รับประทานได้น้ำตาลไม่สูง เหมาะสำหรับคนที่กลัวน้ำหนักเพิ่ม และที่สำคัญปลูกง่าย ดูแลง่าย ให้ผลเร็ว บางคนปลูกในวงซีเมนต์ก็สามารถปลูกได้ และให้ผลดีเหมือนกัน ถ้าท่านชอบรับประทานแก้วมังกร ก็ลองหากิ่งพันธุ์มาปลูกไว้หน้าบ้าน หรือหลังบ้าน สัก 2-3 หลัก ก็จะได้ผลผลิตพอรับประทานในครัวเรือน ไม่ต้องซื้อที่ตลาดเดี๋ยวนี้กิโลละ 20 กว่าบาท แค่ 1-2 ลูก ก็กิโลแล้ว ลองดูนะครับ......ตอนนี้แก้วมังกรที่สวนห้วยผึ้ง-จันทน์ผา ลับแล เริ่มมีผลผลิตออกแล้วครับ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวก็เชิญที่สวน ตอนนี้มีหลักล้มหลายต้น จะให้ยอดพันธุ์สำหรับท่านที่ต้องการปลูกไว้รับประทานเอง แต่ถ้าท่านที่จะนำไปปลูกเป็นรายได้ ก็ขอค่าน้ำ ค่าปุ๋ยบ้างครับ....
ผลผลิตเริ่มสู่ตลาด

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ผลไม้จากสวนห้วยผึ้งจันทร์ผา เมื่อฝนตกชุก

เมื่อคืน เวลา 21.45 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2555 ฝนตกในเขตตำบลแม่พูลอย่างหนัก คาดว่ามีพื้นที่บางแห่งต้องเจอน้ำท่วมแน่ รีบตื่นแต่เช้ามาไปดูน้ำที่ลำเหมืองตั้งแต่ยังไม่ 6 นาฬิกา น้ำเพิ่มขึ้นนิดหน่อย โล่งอกไป ขออย่าให้มีเหตุการณ์น้ำท่วมอีกเลย
 กลับมาบ้านทานกาแฟเสร็จ รีบเดินทางเข้าสวน เพราะกลัวว่าฝนตกแรงขนาดนั้น ต้นไม้ต้องล้ม หรือกิ่งหักแน่ พอไปถึงสวนกลับเป็นปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โล่งอกไปที
ไหน ๆ ก็มาถึงสวนแล้ว เลยเดินดูทุเรียนที่เหลือยังไม่ได้ตัด มีสุกร่วงอีก 4 – 5 ลูก ไปดูหน่อไม้ ปรากฏว่ามีเป็นจำนวนมาก เลยตัดออกมาหวังจะเอาไปขาย แต่ช่วงนี้ทุกสวนที่ปลูกก็ตัดออกมาขายเหมือนกัน คงขายยากเพราะเป็นตลาดพื้นบ้านส่วนใหญ่ชาวบ้านก็ปลูกกันอยู่แล้ว  การตัดหน่อไม้ของชาวลับแลไม่ใช่ใช้มีดตัดหน่อที่พ้นดินนะครับ เขาจะใช้เสียมขุดลงไปตัดที่ใต้ดินนะครับ จะได้หน่ออ่อนน่ารับประทานมาก ส่วนหน่อที่พ้นดินเขาจะนำมาทำหน่อไม้ดอง (ล้บแลเรียกสับส้มครับ)   การตัดหน่อไม้ในบรรยากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอย่างนี้สุดยอดอย่าบอกใคร ยุงมากจริง ๆ ทั้งเหนื่อย ฝนก็พรำ ๆ ยุงก็เหมือนกับจะหามเราไปแนะ
ขณะที่ขับรถกลับบ้านแวะโน่น แวะนี่ แจกหน่อไม้ให้กับคนที่ชอบพอกันไปหลายหน่อ เลือกลับบ้านประมาณ 3เข่งกับอีก  2 ถุงปุ๋ย ไม่ขายแล้ว เดี๋ยวจะให้คุณยายข้างบ้านทำเป็นหน่อไม้ดอง  
สำหรับทุเรียนหลงลับแลที่ตลาดผลไม้เทศบาลหัวดง ก็ยังคงมีจำหน่ายเหมือนเดิม ราคาก็ยังคงปกติ ท่านที่ต้องการรับประทานตอนนี้ก็ยังมีครับ ส่วนหมอนทองบางสวนก็ยังมีมาก ตอนนี้มีรถห้องเย็นมารับซื้อถึงที่ ไม่ห่วงชาวสวนหมอนทองมากนัก  ทุเรียนพื้นเมืองก็เริ่มสุกหล่นเป็นสวนมาก และแม่ค้าที่แปรรูปเป็นทุเรียนกวนก็รับซื้อไม่อั้นเหมือนกัน เป็นอันว่าระยะนี้ทุเรียนที่ลับแลก็ยังมีให้ชิมเหมือนเดิม จะซื้อหาก็เชิญครับ เพราะถ้าฝนชุกรสชาติจะไม่อร่อยนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปลูกไผ่กันลม ได้หน่อ ได้ไม้ค้ำทุเรียน

การปลูกทุเรียนถึงเวลาติดลูก โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พอลูกโตชาวสวนก็ต้องหาที่ยึดกิ่งที่ติดลูก เพราะบางกิ่งติดลูกเป็น 10 ลูกก็มี พอลูกโตเต็มที่กิ่งก็จะหักทำให้เสียหาย วิธีแก้ปัญหาของชาวสวนก็จะใช้เชือกไนล่อน หรือเทปสำหรับรัดของยึดกิ่งที่ติดผลกับต้นหรือกิ่งที่โตกว่า แต่ถ้าจะให้ดีใช้ไม้ไผ่ค้ำกิ่งจะดีที่สุด
 ปลูกในรั้วเป็นแนวกันลม
สวนห้วยผึ้งจันทน์ผา เจ้าของเดิมได้ปลูกไผ่เลี้ยงไว้หลายกอ และเมื่อผมได้มาพัฒนาก็ได้ปลูกไผ่เพิ่มอีกหลายสายพันธุ์ เช่นไผ่อินโดหรือไผ่ตงลืมแล้ง  ไผ่กิมจู  ไผ่ปักกิ่ง  ซึ่งที่ใช้เป็นไม้ค้ำกิ่งทุเรียน หรือส้มโอ ลำไผ่ที่ใช้ค้ำดีที่สุดก็คือไผ่เลี้ยง เพราะลำยาว  ลำไม่โตมากนัก
ลักษณะใบและหน่อ ไผ่อินโด หรือไผ่ตงลืมแล้ง
ผลพลอยได้จากการปลูกไผ่ ก็คือการตัดหน่อ โดยเฉพาะไผ่อินโดหรือไผ่ตงลืมแล้งจะให้หน่อทั้งปี แต่พอเข้าฤดูฝนไผ่ทุกพันธุ์ก็จะออกหน่อเหมือนกันหมด จะช้าหน่อยก็เป็นไผ่เลี้ยง
ลักษณะใบและหน่อไผ่ปักกิ่ง
ที่สวนไผ่ที่ปลูกหน่อโตที่สุดเป็นไผ่กิมจู  แต่ที่ออกและให้ผลทั้งปีคือไผ่อินโดหรือไผ่ตงลืมแล้ง  ที่ลับแลมักจะแกงหน่อไม้เป็นลักษณะแกงพื้นเมือง คือใส่ใบย่านาง ใส่ปลาร้า หรือกะปิ ใส่เห็ดหูหนูที่ขึ้นเองธรรมชาติ (ชาวลับแลเรียนเห็ดหูหละ)ไผ่ตงลืมแล้งแกงได้รสชาติใกล้เคียงกับไผ่ป่า  
ไผ่กิมจู กับไผ่ปักกิ่ง ใช้เป็นไผ่สำหรับต้มจืดจะอร่อยมาก ไผ่ปักกิ่งเวลาหั่นต้มจืดต้องหั่นทางขวางให้เป็นแว่นกลมแผ่นบาง ๆ พอประมาณเหมือนวงล้อ เวลาต้มแล้วจะนิ่มเหนียวดีมาก  ส่วนไผ่เลี้ยง ชาวลับแลนิยมต้มจิ้มน้ำพริก ถ้าเป็นน้ำพริกน้ำปูแล้วจะอร่อยมากครับ   พันธุ์ไผ่..ผมซื้อมาจากสวนไผ่ที่อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ เฮียที่เป็นเจ้าของสวนบอกว่า ถ้าจะกินหน่อไม้ให้อร่อยให้ตัดหน่อก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วนำไปประกอบอาหารทันที  แต่ผมบอกญาติๆ ที่เอาไปบอกว่าตัดแล้วใส่ถุงพลาสติก พรมน้ำให้ชุ่มนิด ๆ รับรองกรอบอร่อยเหมือนตัดใหม่


 ลักษณะใบและหน่อไผ่กิมจู
นอกจากประโยชน์จะใช้เป็นไม้ค้ำยัน  หน่อตัดขายได้ อีกอย่างที่สวนจะปลูกไว้เป็นแนวกันลม ฉะนั้นเวลาลมพัดแรงก็จะช่วยได้บ้าง แต่ไม่ได้ 100 % เพราะลักษณะที่สวนเป็นเนินเขา ผลไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ กอไผ่ก็จะไม่ถูกลมเสียหาย แต่ที่อยู่บนเนินไกลออกไปรับลมเต็มที่ ก็มีเสียหายบ้าง 
ลักษณะใบและหน่อไผ่เลี้ยง
ถ้ามาเที่ยวสวนห้วยผึ้งจันทน์ผา ช่วงทุเรียนออกนี้ ก็จะมีหน่อไม้ออกด้วย ส่วนใหญ่หน่อไม้ไม่ค่อยได้ขาย ตัดเอาไปแจกเพื่อนฝูง หรือเป็นของฝากแก่ญาติ ๆ ที่มาเที่ยวสวน  หรือถ้าท่านไปเที่ยวตรงฤดูก็จะได้รับหน่อไม้กลับไปด้วยครับ……….
ตัดฝากลูก ๆ ศิษย์เก่า ม.นเรศวร เมื่อครั้งมาเที่ยวสวน