0 เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง ชาวสวนในเขตอำเภอลับแล ที่มีเขตติดกับป่าธรรมชาติ
ก็ต้องระวังไฟป่า ที่จริงก็เป็นฝีมือชาวบ้านนั่นแหละครับ ที่เข้าไปหาของป่า แล้วก็จุดไฟเผา
เมื่อไฟลุกขึ้นมีใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นทับซ้อนกันทั้งปี บางแห่งที่เป็นป่าทึบก็จะมีใบไม้แห้งร่วงหนามาก
ใบไม้ที่ร่วงหล่นนี้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี ทำให้เกิดการลุกลามได้อย่างรวดเร็ว การลุกไหม้ของไฟ จะลามจากดอยลูกหนึ่งไปยังดอยอีกลูกหนึ่งอย่างรวดเร็ว
เพียงชั่วข้ามคืนอาจจะลามเข้าสวนผลไม้ได้ ชาวสวนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ทำแนวกันไฟบนเขา มองเห็นทิวไผ่ลิบๆ
0 การป้องกันขั้นต้นของชาวสวน ก็คือการทำแนวกันไฟ โดยใช้เครื่องตัดหญ้าปั่นบริเวณรอยต่อของสวนกับแนวป่า
แล้วก็กวาดใบไม้แห้งให้เป็นทางเรียบ กว้างประมาณ 2 – 3 เมตร
ช่วงนี้ก็จะเห็นชาวสวนเร่งทำกันเกือบจะทุกสวน
เครื่องตัดหญ้าปั่นล่วงหน้า คนกวาดเศษใบไม้เศษญ้ากวาดตาม
0 หลังจากทำแนวกันไฟแล้ว ชาวสวนก็จะนอนเฝ้า สังเกตควันไฟว่ามีการจุดไฟในป่า
ใกล้กับสวนตัวเองหรือไม่ ถ้าใกล้ก็จะต้องเตรียมอุปกรณ์ดับไฟ
ซึ่งก็จะใช้เครื่องพ่นยาฆ่าแมลงชนิดมือโยกสะพายหลัง ดีที่สุดเพราะคล่องตัว
น้ำหนักไม่หนักมากนัก เมื่อถึงแนวไฟ ก็ฉีดแรงน้ำใส่ ไฟก็จะดับ
แต่ก็ต้องอดนอนกันเลยทีเดียว ถ้าไฟยังไม่มาใบไม้ร่วงหล่นมาใส่ตรงที่ทำแนวก็ต้องกวาดกันใหม่
บางที่ก็เรียบ บางที่ก็เอาพอไม่ให้ไฟผ่าน
0 คนที่มีสวนไม่ติดกับแนวป่า ก็ดีหน่อย เพราะสวนคนที่ติดแนวป่าจะเป็นแนวกันไฟให้อยู่แล้ว
แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะถ้าสวนที่ติดแนวป่า เอาไม่อยู่ก็ยุ่งเหมือนกัน
เสียหายกันมามากแล้ว นี่แหละครับความลำบากของชาวสวน ใช่ว่าจะเพียงภัยแล้ง
ภัยน้ำท่วมดินถล่ม แมลงกันกินผลผลิต ไฟป่าก็เป็นภัยอีกอย่างที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายก็จะต้องเตรียมเรื่องการทำแนวกันไฟ
การดับไฟไว้พอประมาณเหมือนกันครับ
เรียบ ๆ อย่างนี้ อีกไม่กี่วันใบไม้ก็ร่วงหล่นเต็มทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ