♣พอถึงวันออกพรรษา
เป็นสัญญาณว่าฤดูฝนกำลังจากไป ชาวสวนผลไม้ลับแลที่เก็บผลหมดแล้วก็เริ่มแผ้วถาง
และเริ่มบำรุงต้นทุเรียน ลองกอง
ส่วนสวนที่ยังตัดผลไม่หมดก็ยังคงตัดออกสู่ตลาดต่อไป สำหรับสวนห้วยผึ้งจันทน์ผา พอตัดหญ้าเสร็จก็มีโอกาสต้อนรับญาติพี่น้องจาก
กทม. และสระบุรี
หมดฝน ต้นไม้เขียวชอุ่ม
♣คณะของญาติเดินทางถึงบ้านหัวดง ลับแล พักที่บ้าน รับประทานอาหารเย็น อาหารต้อนรับวันนี้ก็มียำปลาดุกฟูสูตรเด็จของผมเอง
(ปลาดุกจับมาจากสวน 2 ตัว ๆ ละเกือบกิโล) และมีตุ๋นกระดูกหมูซี่โครงอ่อน
ลาบหมู ส่วนออเดิฟสำหรับคอสุราก็เป็นปูอัดจิ้มวาซาบิ รับประทานเสร็จแล้ว เด็ก ๆ และแม่บ้านก็แยกย้ายกันเข้าห้องพักผ่อน
ส่วนพ่อบ้านก็เป็นธรรมดาของชาวคอเพลง ต้องร้องเพลงกันก่อน ประกอบแสง สี เสียง
ตามประสาคนคอเดียวกัน จนดึกพอสมควรจึงแยกย้ายเข้านอน
♣มื้อเช้าทุกคนตื่นเช้ากันเป็นพิเศษ
เพราะมีโปรแกรมขึ้นไปเที่ยวสวน สำหรับอาหารเช้าประกอบด้วยข้าวผัดมันกุ้ง
ต้มจืดเต้าหู้ ไข่กระทะ (ชา กาแฟ ตามชอบ ชงเอง มีทั้งสำเร็จรูป และกาแฟดำ) เมื่อรับประทานกันอิ่มแล้วก็ขึ้นรถปิคอัพ
มุ่งสู่สวนห้วยผึ้งจันทร์ผา
♣ถึงสวนเตรียมตัว เด็ก ๆ ที่สวมรองเท้าแตะ เปลี่ยนเป็นบู๊ตชาวสวน ถ่ายรูปก่อนขึ้น
เพื่อเป็นสัญญาว่าฉันจะไปให้ถึงชั้นบนสุดของสวน
แล้วจะได้นำมาเปรียบเทียบกับตอนลงมา ว่ายังหล่อ ยังสวนเหมือนเดิมหรือเปล่า
เกือบสูงสุดแล้วถึงจะขึ้นช้าหน่อยก็ยังถึง
(ปล่อยให้คนแก่ขึ้นไปนั่งรอก่อน)
(ปล่อยให้คนแก่ขึ้นไปนั่งรอก่อน)
เมื่อถึงจุดสูงสุดก็มองเห็นบ้านข้างล่าง ซึ่งมีอีกหลายคนไม่ยอมเดินขึ้น
♣ออกเริ่มเดินขึ้นสวนไปทางทิศเหนือ แล้วเดินตามทางมาสู่เนินกลางสวน แล้วเดินต่อไปยังทิศใต้
เพื่อเดินตามทางลง ทุกคนก็เหนื่อยพอสมควร เรียกว่าคุ้มกับอยากไปเที่ยวสวนกันเลยทีเดียว
คนที่ไม่ขึ้นก็นั่งฟังเพลง รับประทานผลไม้ นอนรอบนเปลยวณ เมื่อลงมาถึงก็รับประทานส้มโอ
กล้วยสุก น้ำชาสมุนไพร บางทานก็ลองยาดองแกล้มส้มโอกับตะลิงปลิง
จนเวลาพอสมควรเดินทางกลับ เตรียมตัวเดินทางไปพักผ่อนที่จังหวัดน่านต่อไป
ขณะเดินลง ท่าทางไม่เหนื่อยเลย
คนที่เคยขึ้นไปแล้วก็รออยู่ข้างล่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น&สอบถามมาได้นะครับ